แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 60
1
ทำอาชีพเสริมขายข้าวผัดปูผงกระหรี่ อาหารตามสั่งอร่อยกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศเฉพาะตัว

ข้าวผัดปูผัดผงกะหรี่โดดเด่นด้วยการผสมผสานรสชาติอันเข้มข้น เนื้อสัมผัสอันน่าพึงพอใจและความสะดวกสบายของอาหารจานเดียว มักพบในร้านอาหารท้องถิ่นและร้านตามสั่ง อาหารจานนี้ผสมผสานกลิ่นหอมของข้าวผัดเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของผงกะหรี่เหลืองไทยและเนื้อปูที่ชุ่มฉ่ำที่ผสมผสานรสชาติของข้าวผัดปูเข้ากับความหอมและเผ็ดร้อนของผงกะหรี่ได้อย่างลงตัว

อะไรที่ทำให้ข้าวผัดผงกะหรี่ปูพิเศษ?
ข้าวผัดทั่วไปมักใช้ซีอิ๊วหรือน้ำปลาเป็นเครื่องปรุงหลัก แต่ข้าวผัดผงกะหรี่ปูจะเพิ่มความอร่อยด้วย:
ผงกะหรี่หอม – เพิ่มรสชาติอบอุ่น เผ็ดเล็กน้อย และแปลกใหม่
เนื้อปูสด – ให้ความหวานตามธรรมชาติและรสชาติอาหารทะเลที่ละเอียดอ่อน
ไข่และผัก – ไข่คน หัวหอม และต้นหอมช่วยเพิ่มความสมดุลและเนื้อสัมผัส
ส่วนผสมซอสปรุงรส – ส่วนผสมของซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง และนมหรือนมระเหยเล็กน้อย ทำให้เกิดการเคลือบแบบครีม
ผลลัพธ์ที่ได้คือข้าวสีเหลืองสดใสพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบอาหารทะเลที่ชอบรสชาติที่เข้มข้นแต่สบายใจ

ตัวเลือกยอดนิยมในร้านอาหารตามสั่ง
ในประเทศไทย ร้าน “อะฮานตามซาง” ให้ลูกค้าสั่งข้าวผัดหรือข้าวผัดหลากหลายชนิดที่ปรุงอย่างรวดเร็วตามความชอบ หนึ่งในนั้นคือข้าวผัดผงกะหรี่ปู ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความหลากหลาย สามารถรับประทานเปล่าๆ หรือรับประทานคู่กับซุปใสและแตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นๆ ได้

โดยทั่วไปจะเสิร์ฟอย่างไร
ข้าวผัดผงกะหรี่ปู 1 จาน มักจะมาพร้อมกับ:
แตงกวาสดและมะนาวฝาน
น้ำปลาพริกเพิ่มความเผ็ดร้อน
เพิ่มไข่ดาวด้านบนเพื่อเพิ่มความเข้มข้น
ความสมดุลระหว่างรสชาติเผ็ด เผ็ดร้อน และสดชื่นนี้คือสิ่งที่ทำให้เมนูข้าวผัดไทยเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

ทำไมคุณควรลอง
เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องเทศไทยและอาหารทะเลสดได้อย่างลงตัว
มันรวดเร็ว อิ่มและประหยัด
แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารแบบ “ริมทาง” ของไทย โดยนำวัตถุดิบธรรมดาๆ มาปรุงเป็นมื้ออาหารที่น่าจดจำ

รสชาติ:
ความอร่อย: หอมกลิ่นกระทะและผงกะหรี่
รสสัมผัส: เนื้อปูสดนุ่ม ผัดกับข้าวเม็ดสวย
ความเผ็ด: เผ็ดร้อนเล็กน้อยจากผงกะหรี่
รสชาติโดยรวม: เค็ม หวาน เผ็ดร้อนกำลังดี

เหมาะสำหรับ:
ผู้ที่ชอบทานอาหารรสจัดและมีกลิ่นเครื่องเทศ
คนที่ชอบทานข้าวผัดปูแต่ต้องการรสชาติที่แตกต่างออกไป

หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนรสชาติหรือวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ใส่เนื้อสัตว์อื่นเพิ่ม หรือไม่ใส่ผงกะหรี่ สามารถแจ้งได้เลย ไม่ว่าคุณจะกำลังสำรวจประเทศไทยหรือทำอาหารเองที่บ้านข้าวผัดผงกะหรี่ปูก็เป็นเมนูที่ต้องลองซึ่งสะท้อนถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมอาหารไทย: รสชาติอร่อย เข้าถึงได้ และทำด้วยความรัก


2
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส invisalign จะทานอะไรก็ได้ จริงหรือ ?

การจัดฟันแบบใส invisalign กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ด้วยวิธีการรักษาที่ทันสมัย เครื่องมือที่ก้าวล้ำไปมากกว่าสมัยก่อน ซึ่งในสมัยก่อนคนยังนิยมการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันอยู่ ซึ่งหลายคนที่เคยใส่เหล็กจัดฟันจะทราบดีว่า การรับประทานอาหารนั้น ถือเป็นเรื่องที่คำนึงถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากความไม่สะดวกสบายของเครื่องมือจัดฟันที่ติดตั้งอยู่ภายในช่องปาก ทำให้รับประทานอาหารได้ไม่หลากหลาย อีกทั้งยังต้องกังวลเรื่องของ เศษอาหารที่จะเข้าไปติดอยู่ภายในซอกเหล็กด้วย

การจัดฟันแบบใส invisalign ถือเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องของการรับประทานอาหารได้ เพราะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่า เครื่องมือจะหลุดในขณะที่ท่านรับประทานอาหาร และไม่ต้องกังวลว่าเศษอาหารจะตกค้างอยู่ในซอกเหล็ก เพราะการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถถอดเครื่องมือได้ขณะรับประทานอาหาร และเวลาแปรงฟัน ซึ่งถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะจะได้รับประทานได้อย่างเต็มที่

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส invisalign ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของบุคคลบางกลุ่มที่ชอบรับประทานจุกจิก เพราะต้องคอนถอดเคึรื่องมือเข้าๆออกๆ ทุกครั้ง เวลาจะรับประทานอะไรก็อาจจะไม่สะดวก รวมไปถึงคนที่ชอบดื่มกาแฟบ่อย ก็อาจจะมีผลกระทบไปถึงเครื่องมือ ที่อาจจะมีสีกาแฟไปติดเครื่องมือได้ ซึ่งพฤติกรรมข้างต้นก็จะส่งผลกระทบต่อการจัดฟันแบบใส invisalign ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมีวินัยและมีการดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากมากเป็นพิเศษ


จะจัดฟันแบบใส invisalign ต้องมีวินัย เพื่อผลลัพธ์ที่ดี !

การจัดฟันแบบใสนั้น มีวิธีและขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อน แต่ก็มีผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพในการใช้งานไม่แพ้การจัดฟันแบบอื่น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันแบบใส invisalign มีข้อจำกัดหลายข้อ หากต้องการเข้ารับการจัดฟันในรูปแบบนี้ ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากมากเป็นพิเศษ ต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี

รวมไปถึงผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีระเบียบวินัย ในการใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือ เทรย์ ที่สามารถถอดออกได้ เพื่อความสะดวกสบาย ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องใส่เครื่องมือตลอดอย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อผลการรักษาที่ดี และรวมไปถึงสุขภาพช่องปากของตัวท่านเอง หากว่าผู้เข้ารับการรักษาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะให้ผลการรักษาล้มเหลว และเสียเงินฟรีได้

เพราะการจัดฟันแบบใส invisalign มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงประมาณ 150,000 – 200,000 เลยทีเดียว เพราะต้องมีการออกแบบเครื่องมือเฉพาะบุคคลและต้องส่งแบบไปที่ต่างประเทศ หากผู้เข้ารับการจัดฟันทำเครื่องมือสูญหาย ก็จะต้องทำการออกแบบ เครื่อวมือใหม่ ซึ่งจะเสียเวลาในการรักษาอีกด้วย ทางคลีนิค เรามีทีมทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ที่เข้ารับการรักษา และมีประสบการณ์ด้านการจัดฟันมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับแนะนำที่เป้นประโยชน์แน่นอน

3
หมอออนไลน์: ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease/COPD)

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง หมายถึงภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากโรคเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีอยู่หลายโรค ที่สำคัญได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมปอดโป่งพอง ทั้ง 2 โรคนี้มักจะพบร่วมกัน ทำให้มีการลดลงของอัตราการไหลเวียนของลมหายใจผ่านปอดขณะหายใจออก จึงมีอากาศคั่งค้างอยู่ในปอดมากกว่าปกติ ประกอบกับการแลกเปลี่ยนอากาศขึ้นได้น้อยกว่าปกติ (มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง และระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูงขึ้น) เป็นเหตุให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยง่าย

หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุผิวภายในหลอดลม ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื้อรัง เป็นผลมาจากการถูกสารพิษในบุหรี่หรือสิ่งระคายเคือง ทำให้ขนอ่อน (cilia) พิการ ไม่สามารถโบกพัดเพื่อขจัดเชื้อโรคและสิ่งระคายเคืองออกไป เมื่อเยื่อบุหลอดลมเกิดการอักเสบเรื้อรัง ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุหลอดลมมีการเพิ่มจำนวนและหนาตัวขึ้น รวมทั้งต่อมเมือก (mucous glands) บวมโตและหลั่งเมือก (เสมหะ) ออกมากกว่าปกติ จนทำให้ช่องทางเดินหายใจแคบลง เกิดภาวะอุดกั้นขึ้น แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการไอมีเสมหะมากติดต่อกันทุกวันปีละมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี

ถุงลมปอดโป่งพอง (ถุงลมพอง ก็เรียก) หมายถึง ภาวะพิการอย่างถาวรของถุงลมในปอด ปกติถุงลมอยู่ปลายสุดของปอด ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนล้าน ๆ ถุง เป็นถุงอากาศเล็ก ๆ มีหลอดเลือดหุ้มอยู่โดยรอบ เป็นที่ซึ่งเกิดการแลกเปลี่ยนอากาศ กล่าวคือ ก๊าชออกซิเจนในถุงลมซึมผ่านผนังถุงลมและหลอดเลือดเข้าไปในกระแสเลือดและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือด ซึมกลับออกมาในถุงลม ถุงลมที่ปกติจะมีผนังที่ยืดหยุ่น ทำให้ถุงลมหดและขยายตัวได้คล้ายฟองน้ำ ซึ่งช่วยให้การแลกเปลี่ยนอากาศเป็นไปอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง จะมีผนังถุงลมที่เสียความยืดหยุ่นและเปราะง่าย ทำให้ถุงลมสูญเสียหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนอากาศ นอกจากนี้ผนังของถุงลมที่เปราะยังมีการแตกทะลุ ทำให้ถุงลมขนาดเล็ก ๆ หลาย ๆ อันรวมตัวเป็นถุงลมที่โป่งพองและพิการ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ จำนวนพื้นผิวของถุงลมที่ยังทำหน้าที่ได้ทั้งหมดลดน้อยลงกว่าปกติ ทำให้ออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง เกิดอาการเหนื่อยหอบง่าย

ทั้ง 2 โรคนี้มักจะเกิดร่วมกัน จนบางครั้งแยกกันไม่ออก พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หลอดลมอักเสบเรื้อรังจะพบมากในช่วงอายุ 30-60 ปี ส่วนถุงลมปอดโป่งพองพบมากในช่วงอายุ 45-65 ปี ส่วนใหญ่จะมีประวัติสูบบุหรี่จัด (มากกว่าวันละ 20 มวน) มานานเป็น 10-20 ปีขึ้นไป หรือไม่ก็มีประวัติอยู่ในที่ที่มีอากาศเสีย สูดควันเป็นประจำ หรือมีอาชีพทำงานในโรงงาน หรือเหมืองแร่ที่หายใจเอาสารระคายเคืองเข้าไปเป็นประจำ

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง,หลอดลมอักเสบเรื้อรัง


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ที่สูบเข้าไปทำลายเยื่อบุหลอดลมและถุงลมในปอด ซึ่งค่อย ๆ เกิดขึ้น และลุกลามรุนแรงขึ้นอย่างช้า ๆ และในที่สุดเกิดความพิการอย่างถาวรดังกล่าวข้างต้น (พบว่าประมาณร้อยละ 15-20 ของผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง)

ส่วนน้อยอาจเกิดจากมลพิษในอากาศ (เช่น ฝุ่น สารเคมี) จากการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง และอาจเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีการสูบบุหรี่ร่วมด้วย   

ในบางพื้นที่ (เช่น เขตเขาทางภาคเหนือ) พบว่าเกิดจากการใช้ฟืนหุงต้มหรือก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยสูดควันอยู่ประจำจนเป็นพิษต่อทางเดินหายใจ

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหืด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังมากกว่าคนปกติ และการสูบบุหรี่ยิ่งทำให้เสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าอาจเกิดจากภาวะพร่องสารต้านทริปซิน (alpha1-antitrypsin ซึ่งเป็นโปรตีนป้องกันไม่ให้ถุงลมปอดถูกสารพิษทำลาย) ภาวะนี้พบได้น้อย สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และมักเกิดอาการในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 40-50 ปี

อาการ

ระยะที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (อาจเริ่มในช่วงอายุ 30-40 ปี) จะมีอาการไอมีเสมหะเรื้อรังทุกวันเป็นแรมเดือนแรมปี ผู้ป่วยมักจะไอหรือขากเสมหะในคอหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำ จนนึกว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษา ต่อมาจะไอถี่ขึ้นตลอดทั้งวัน และมีเสมหะจำนวนมาก ในช่วงแรกมีลักษณะเป็นสีขาว ต่อมาอาจเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีไข้ขึ้นหรือหอบเหนื่อยเป็นครั้งคราวจากโรคติดเชื้อแทรกซ้อน

ถ้าไม่หยุดสูบบุหรี่ จนมีโรคถุงลมปอดโป่งพองตามมา (อาจใช้เวลามากกว่า 10 ปี จากระยะเริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง) นอกจากอาการไอเรื้อรังแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายเฉพาะเวลาออกแรงมาก หรือเมื่อมีโรคติดเชื้อแทรก (เช่น มีไข้ ไอมีเสมหะเหลืองหรือเขียว) อาการหอบเหนื่อยจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้น แม้แต่เวลาพูดหรือเดินหรือทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย จนในที่สุด (อาจใช้เวลา 5-10 ปีขึ้นไป) แม้แต่อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกหอบเหนื่อย ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถหายใจแลกเปลี่ยนอากาศ (ออกซิเจน) ได้เพียงพอต่อการนำไปเลี้ยงร่างกายให้เกิดพลังงาน

ในระยะหลัง ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบหนักเป็นครั้งคราวเมื่อมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ทำให้มีไข้และไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หายใจหอบ ตัวเขียว จนต้องเขารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

บางครั้งอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน

เมื่อเป็นถึงขั้นระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีอาการเบื่ออาหารและน้ำหนักลด รูปร่างผ่ายยอม และมีอาการเหนื่อยหอบอยู่ตลอดเวลา มีอาการทุกข์ทรมาน และรู้สึกท้อแท้


ภาวะแทรกซ้อน

มักมีการติดเชื้อแทรกซ้อนเป็นครั้งคราว เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ซึ่งจะทำให้มีอาการหอบกำเริบรุนแรง ระยะแรก ๆ ประมาณปีละ 1-2 ครั้ง แต่เมื่อโรคถุงลมปอดโป่งพองเป็นรุนแรงมากขึ้น ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ถี่ขึ้นจนผู้ป่วยอาจต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลบ่อย

ระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีภาวะการหายใจล้มเหลวเรื้อรัง (chronic respiratory failure) ร่วมด้วย และอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน มีอาการหอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ หลอดเลือดที่คอโป่ง เท้าบวม ตับโต หัวใจห้องขวาล่างโต เรียกว่า โรคหัวใจเหตุจากปอด (cor pulmonale)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปอดทะลุ จากการที่ถุงลมส่วนนอก (ใกล้เยื่อหุ้มปอด) แตก ไอออกเป็นเลือดจากการอักเสบของหลอดลม ภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดมีลิ่มเลือด หรือ phrombosis) ไส้เลื่อน กำเริบเนื่องจากอาการไอเรื้อรัง เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ระยะต่อมาใช้เครื่องฟังตรวจปอดมักได้ยินเสียงอึ๊ด (rhonchi) เสียงกรอบแกรบ (crepitation) เสียงวี้ด (wheezing) และ/หรือเสียงหายใจออกยาว (prolonged expiration) ในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนมักมีไข้ร่วมด้วย

ในระยะที่เป็นมากขึ้น อาจพบอาการหายใจเร็ว หน้าอกมีอาการเคาะโปร่ง (hyperresonant) และเมื่อใช้เครื่องฟังตรวจปอด จะพบเสียงหายใจค่อย (ฟังไม่ค่อยได้ยิน) เนื่องจากมีอากาศค้างอยู่ในถุงลม และลมหายใจเข้าออกได้น้อย ถ้ามีอากาศค้างอยู่ในถุงลมมาก ก็จะพบหน้าอกมีลักษณะเป็นรูปถังทรงกระบอก เรียกว่า อกถัง หรือ อกโอ่ง (barrel chest)

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคนี้ให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ ทำการวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometry) เพื่อประเมินสมรรถภาพของปอด* ในรายที่เป็นระยะรุนแรงอาจทำการตรวจเลือดประเมินภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia) ซึ่งอาจพบในผู้ป่วยบางราย ตรวจระดับออกซิเจนในเลือด (ซึ่งจะต่ำกว่าปกติตั้งแต่ระยะแรก ๆ) และคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด (ซึ่งจะสูงกว่าปกติในระยะต่อมา) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น ในรายที่อายุต่ำกว่า 40 ปีอาจตรวจหาระดับสารต้านทริปซินในเลือด

อกโอ่ง

* ดูค่า FEV1 (forced expiratory volume in one second) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกใน 1 วินาที และค่า FVC (forced vital capacity) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกจนสุดอย่างเต็มที่หนึ่งครั้ง

แพทย์จะประเมินจากค่า FEV1 และ FEV1/FVC (ค่า FEV1 หารด้วยค่า FVC) ซึ่งทั้ง 2 ค่านี้ถ้ายิ่งมีค่าต่ำ ก็ยิ่งบ่งชี้ว่ายิ่งมีความรุนแรง เช่น ในรายที่มีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง มักมีค่า FEV1/ FVC < 70% และมีค่า FEV1 ≥ 80% ของค่ามาตรฐาน (ในรายที่เป็นเล็กน้อย) ระหว่าง 30-80% (ในรายที่เป็นปานกลาง) และ < 30% (ในรายที่เป็นรุนแรง)


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ยาบรรเทาตามอาการ เช่น ถ้ามีเสียงวี้ด (wheezing) ให้ยาขยายหลอดลม กลุ่มยากระตุ้นบีตา 2 หรือไอพราโทรเพียมโบรไมด์ชนิดสูด อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ร่วมกัน ถ้ามีอาการหอบตอนดึก อาจให้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว ในรายที่เป็นรุนแรงมักจะให้สเตียรอยด์ชนิดสูดร่วมกับยาข้างต้น

2. ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เช่น มีไข้หรือมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ, อีริโทรไมซิน, ร็อกซิโทรไมซิน, ดอกซีไซคลีน, โคไตรม็อกซาโซล เป็นต้น) นาน 7-10 วัน

3. ในรายที่มีอาการหายใจหอบรุนแรง หรือสงสัยเป็นปอดอักเสบ ปอดทะลุ หรือภาวะหัวใจวาย แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ อาจต้องให้ออกซิเจน ใส่ท่อหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ

ผลการรักษา ขึ้นกับระยะและความรุนแรงของโรค ถ้าเป็นระยะแรก (FEV1 > 50% ของค่ามาตรฐาน) และผู้ป่วยสามารถเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด ก็มักจะได้ผลดี โรคจะไม่ลุกลามรุนแรงมากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ลุกลามจนถึงระยะรุนแรง (สมรรถภาพของปอดลดลงอย่างมากแล้ว คือ FEV1 < 30% ของค่ามาตรฐาน) ก็มักจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน (เช่น ภาวะการหายใจล้มเหลว ปอดอักเสบ ปอดทะลุ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด เป็นต้น) ภายใน 1–5 ปี โดยเฉลี่ยผู้ป่วยทุกระดับของความรุนแรงมีอัตราตายมากกว่าร้อยละ 50 ใน 10 ปีหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก

การดูแลตนเอง

หากมีอาการไอและเหนื่อยง่ายอย่างเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในบรรยากาศที่มีฝุ่นควันนานๆ  ควรปรึกษาแพทย์

หากตรวจพบว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือถุงลมปอดโป่งพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญคือ เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 8-12 แก้ว) เพื่อช่วยขับเสมหะ

2. ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ โดยเรียนรู้วิธีใช้ยาที่ถูกต้อง และติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง

3. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย 
    เจ็บหน้าอกมาก หายใจหอบหรือหายใจลำบาก   
    ไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว หรือไอเป็นเลือด
    เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
    มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น นอนราบไม่ได้ (เพราะรู้สึกหายใจลำบาก) หรือเท้าบวม
    ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ 2-3 วันแล้วไม่ดีขึ้น 
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. ที่สำคัญคือ การไม่สูบบุหรี่

2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลพิษในอากาศ

3. หลีกเลี่ยงการใช้ฟืนก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ

4. ถ้าเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคหืด ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด ควรหมั่นพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเริ่มมีอาการไอบ่อยทุกวันโดยไม่มีสาเหตุอื่นชัดเจน

2. ผู้ที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังหรือภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังในระยะแรกเริ่ม ควรเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด จะช่วยให้อาการไม่ลุกลามมากขึ้น ผู้ป่วยควรติดตามการรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางช่วยให้เลิกบุหรี่ ให้ยาบรรเทาตามอาการ ประเมินสมรรถภาพของปอดและภาวะแทรกซ้อนเป็นระยะ ๆ

3. ผู้ป่วยและญาติควรศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติของโรคและแนวทางการดูแลรักษา ญาติควรเข้ามามีบทบาทในการให้กำลังใจผู้ป่วย ในการเลิกบุหรี่และการติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลเรื่องโภชนาการ (ผู้ป่วยระยะรุนแรงมักมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งจะทำให้ซ้ำเติมอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น) การให้ออกซิเจนที่บ้าน (สำหรับผู้ป่วยระยะรุนแรง) การใช้ยารักษาให้ครบถ้วนตามที่แพทย์กำหนด การพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันทีที่สงสัยว่ามีภาวะแทรกซ้อน และการเตรียมพร้อมในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (end of life) ให้มีคุณภาพ ลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย และไม่ให้สิ้นเปลืองเกินเหตุ

4. โรคถุงลมปอดโป่งพอง อาจมีอาการหายใจหอบและได้ยินเสียงวี้ดคล้ายโรคหืด แต่ต่างกันตรงที่ถุงลมปอดโป่งพองจะเริ่มมีอาการในคนอายุ 50-60 ปีขึ้นไปที่มีประวัติสูบบุหรี่จัดหรือถูกมลพิษทางอากาศมาเป็นเวลานาน และมีอาการหอบเหนื่อยรุนแรงขึ้นทีละน้อยอย่างช้า ๆ (ใช้เวลานาน 5-10 ปีขึ้นไป) ส่วนโรคหืดมักจะเริ่มเป็นตั้งแต่วัยเด็ก มักมีประวัติโรคหืดหรือโรคภูมิแพ้ในครอบครัว และมีอาการหอบกำเริบเป็นครั้งคราว บางครั้งก็อาจแยกกันไม่ได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในคนอายุมาก อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โรคนี้มีแนวทางการดูแลรักษาคล้ายกัน และควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์เป็นหลัก

4
เรียนรู้กับ รถรับจ้างตรัง "รถรับจ้างขนของ ทำอะไรได้บ้าง?"

บริการรถรับจ้างขนสินค้าและวัสดุก่อสร้าง

บริการรถรับจ้างขนสินค้าและวัสดุก่อสร้างมักมีลักษณะเด่นต่อไปนี้

        ขนสินค้าหรือวัสดุเป็นปริมาณมาก : บริการนี้เหมาะสำหรับการขนสินค้าหรือวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากที่ไม่สามารถขนส่งด้วยรถส่วนตัวหรือรถโดยสารได้
        ความหลากหลายในขนสินค้า : รถรับจ้างขนของตรัง รถรับจ้างขนสินค้าและวัสดุก่อสร้างสามารถขนสินค้าหลากหลายชนิด เช่น วัสดุก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ เครื่องจักร วัสดุบรรจุแพ็คเก็จ สินค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการจัดส่ง หรือวัสดุที่ต้องการการจัดการเฉพาะเช่น บริการขนสินค้าแช่แข็งหรือแช่แข็ง
        ความปลอดภัยและความรวดเร็ว : บริการนี้มักมีความเชี่ยวชาญในการขนสินค้าและวัสดุก่อสร้างอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อให้สินค้าถึงที่ปลายทางทันเวลาและในสภาพที่ดี
        การจัดส่งที่ครบวงจร : บริการนี้มักรวมถึงการจัดส่งที่ครบวงจร ซึ่งรวมถึงการรับสินค้าที่จะขนส่ง การเตรียมสินค้า การขนส่ง การรับสินค้าที่สถานที่ปลายทาง และการจัดส่งลงที่
        การให้บริการที่กำหนดเวลา : บริการรถรับจ้างขนสินค้าและวัสดุก่อสร้างมักมีการสนับสนุนเวลาในการจัดส่ง เช่น การจัดส่งตามกำหนดหรือการจัดส่งด่วน
        การปรับแต่งรถและการบริการ : บริการนี้สามารถปรับแต่งรถขนสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และมักมีความเชี่ยวชาญในการจัดส่งสินค้าที่มีขนาดและน้ำหนักของแต่ละชนิดรถหกล้อรับจ้าง ใกล้ฉัน

บริการรถรับจ้างขนสินค้าและวัสดุก่อสร้างเป็นส่วนสำคัญของภูมิภาคการก่อสร้างและธุรกิจโลจิสติกส์เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของสังคมในทุกประเภทของโครงการและกิจกรรมทางธุรกิจที่ต้องการการขนสินค้า

   
บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านและย้ายที่อยู่

เป็นบริการที่มุ่งเน้นในการช่วยลูกค้าย้ายที่อยู่ สินค้าส่วนตัว ของส่วนตัว สิ่งของ และวัสดุจากสถานที่ที่อยู่เดิมไปยังสถานที่ใหม่ โดยใช้รถรับจ้างที่เหมาะสมสำหรับงานย้ายที่อยู่ เรื่องนี้มักเกี่ยวข้องกับการย้ายบ้านของบุคคล การย้ายสำนักงาน การย้ายสินค้าจากสถานที่ธุรกิจหรือการเคลื่อนย้ายครอบครัวของคนต่างชาติ นี่คือลักษณะและรายละเอียดของบริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านและย้ายที่อยู่

    บริการการบรรจุและขนสินค้า : บริการรถรับจ้างย้ายบ้านที่ครอบครัวหรือบุคคลมักรวมการบรรจุและขนสินค้าจากบ้านเก่าไปยังรถขนสินค้า แล้วขนสินค้าไปยังบ้านใหม่
    การให้บริการแบบปรับเปลี่ยน : บริการรถรับจ้างที่มีความยืดหยุ่น ลูกค้าสามารถเลือกบริการตามความต้องการ เช่น บริการที่รวดเร็ว บริการบรรจุและถอดเครื่องใช้ได้ บริการขนสินค้าและบริการครบวงจร
    การครอบคลุมพื้นที่กว้าง : บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านสามารถบริการลูกค้าในพื้นที่กว้าง เช่น ในเมืองหรือทางไกลในภูมิภาคหรือระหว่างรัฐ
    การจัดการที่อยู่และสินค้าที่ปลายทาง : บริการรถรับจ้างช่วยในการจัดการที่อยู่และสินค้าที่สถานที่ปลายทาง รวมถึงการดูแลความปลอดภัยของสินค้าระหว่างการขนย้าย
    การใช้รถรับจ้างที่เหมาะสม : รถรับจ้างที่ใช้สำหรับบริการนี้มักจะเป็นรถพื้นที่ใหญ่ที่สามารถขนสินค้าและสิ่งของในปริมาณมากได้ โดยมีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการย้ายที่อยู่
    การให้บริการที่ปรับตามเวลา : บริการนี้มักมีความเร่งด่วนและความยืดหยุ่นในเวลาในการให้บริการ เพื่อให้สามารถตรงตามตารางการย้ายที่อยู่ของลูกค้า

บริการ รถรับจ้างขนย้ายบ้าน และ ย้ายที่อยู่ เป็นบริการสำคัญที่ช่วยลูกค้าในการย้ายไปยังที่อยู่ใหม่หรือย้ายสินค้าของพวกเขาอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว รถรับจ้างขนของตรัง โดยทั่วไปบริการนี้จะเสริมความสะดวกสบายและลดความห่วงใยในกระบวนการย้ายที่อยู่ของลูกค้า

บริการรถรับจ้างในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต

เป็นบริการที่มุ่งเน้นในการให้บริการรถขนสินค้าเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคอุตสาหกรรมการผลิตเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจที่ผลิตสินค้าและวัสดุต่าง ๆ ในมาตรฐานที่ใหญ่ และ รถรับจ้างขนของตรัง มีบทบาทสำคัญในกระบวนการขนสินค้าสู่และจากโรงงาน โรงงาน คลังสินค้า ศูนย์การผลิต และศูนย์จัดเก็บสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมการผลิต นี่คือลักษณะและรายละเอียดของบริการรถรับจ้างในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต

    ขนสินค้ากลางระหว่างโรงงานและคลังสินค้า : บริการรถรับจ้างช่วยในการขนสินค้าจากโรงงานผลิตไปยังคลังสินค้าและคลังสินค้าไปยังโรงงานผลิต ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดการคงคลังและการควบคุมการผลิต
    ขนสินค้าระหว่างโรงงานและศูนย์จัดเก็บสินค้า : บริการนี้ช่วยในการขนสินค้าระหว่างโรงงานผลิตและศูนย์จัดเก็บสินค้า ที่ส่งผลให้มีการจัดเก็บและจัดจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    การขนสินค้าหากำแพงขนสินค้า : บริการนี้เกี่ยวข้องกับการขนสินค้าจากหน้าโรงงานหรือคลังสินค้าไปยังขนสินค้าที่จะส่งออกหรือจัดจำหน่ายในตลาดภายนอก
    การรับจ้างขนสินค้าระหว่างหน่วยธุรกิจ : บริการรถรับจ้างช่วยในการขนสินค้าระหว่างหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ในระหว่างกระบวนการผลิต ที่เชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ของยุทธศาสตร์การผลิต
    บริการพิเศษสำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก : บริการนี้เน้นการขนสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก เช่น เครื่องจักรหนัก, โครงสร้างกล้าสะพาน, หรือสินค้าใหญ่หรือหนักอื่น ๆ
    การปรับแต่งรถรับจ้าง : บริการรถรับจ้างที่มุ่งหนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิตมักต้องปรับแต่งรถขนสินค้าให้เหมาะสมกับการขนสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะ
    ความสำคัญในกระบวนการภาคผนวกของธุรกิจ : บริการรถรับจ้างขนสินค้าเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจที่ผลิตสินค้า ด้วยการให้บริการที่มุ่งหนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

บริการรถรับจ้างในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิตเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการโลจิสติกส์และจัดการสินค้าในภาคอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุนในกระบวนการผลิต และการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดและลูกค้าในที่สุด

5
แก้ไขฟันห่าง ด้วยการจัดฟันเด็ก

ปัญหาฟันห่างหรือมีช่องว่างระหว่างฟันนั้น เกิดขึ้นได้กับฟันทุกบริเวณ แต่จุดที่สังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนและสร้างความไม่มั่นใจให้ใครหลายคน คือ บริเวณฟันหน้า ซึ่งสาเหตุของฟันห่างมีทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการรักษาทางการแพทย์มากมายที่ช่วยปิดช่องฟันห่างหรือลดช่องว่างระหว่างฟันได้อย่างเห็นผล เช่นเดียวกับเด็กที่มีฟันผุที่รุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียฟัน บางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดฟันห่างได้ ยิ่งถ้าบริเวณนั้น มีภาวะฟันแท้หายด้วยแล้ว ก็จะทำให้เด็กรู้สึกไม่มั่นใจได้ ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้แก้ไขปัญหาฟันห่าง ต้องบอกก่อนว่า สาเหตุของการเกิดฟันห่างนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความผิดปกติของเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะใต้ลิ้นกับพื้นด้านล่างของช่องปาก หรือเนื้อเยื่อใต้ริมฝีปากบนกับเหงือก เนื้อเยื่อเหล่านี้มีลักษณะเป็นเส้นและมีบทบาทในการพัฒนาโครงสร้างช่องปากตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนทารกในครรภ์มารดา บางคนมีเนื้อเยื่อนี้ยึดติดมากกว่าปกติ


ซึ่งอาจส่งผลให้มีฟันหน้าห่างออกจากกันได้ รวมไปถึงขนาดฟันเล็กกว่าขากรรไกร หากมีฟันขนาดเล็กกว่าขากรรไกรหรือมีขากรรไกรที่ใหญ่เกินไป อาจส่งผลให้ฟันเรียงตัวห่างจากกันเพื่อเติมเต็มพื้นที่ขากรรไกร ซึ่งขนาดของฟันและขากรรไกรมีปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด หากพ่อแม่ฟันห่างก็มีโอกาสที่บุตรหลานจะมีฟันห่างไปด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันห่างในเด็กได้ สำหรับอาการฟันห่างนั้น เกิดขึ้นได้ทุกวัย ยิ่งถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของฟันผุ การสูญเสียฟัน ก็อาจจะทำให้เกิดฟันห่างฟันล้มได้ ดังนั้น การรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันจึงมีความสำคัญมาก

สำหรับอาการฟันห่างในเด็กนั้น เกิดจากการที่เด็กติดนิสัยดูดนิ้ว อาจมีฟันหน้าห่างเนื่องจากแรงดันจากการดูดนิ้ว อย่างไรก็ตาม เด็กหลายคนอาจมีฟันหน้าห่างและมีเนื้อเยื่อยึดระหว่างลิ้นกับพื้นช่องปากมากเกินไปในระยะที่ฟันเริ่มงอกขึ้นมา แต่ช่องว่างดังกล่าวจะหายไปเพราะเนื้อเยื่อนี้จะค่อย ๆ สั้นลงเมื่อเวลาผ่านไป ส่วนฟันหน้าที่ห่างในวัยผู้ใหญ่นั้น ก็อาจหายไปโดยธรรมชาติได้เช่นกันหากมีฟันกรามขึ้นมาดันให้ฟันเข้ามาติดชิดกันในภายหลัง

แต่ถ้าหากไม่หาย พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนก็เกิดความกังวลใจกลัวลูกจะเสียบุคลิกภาพและอาจจะโดนล้อได้ ดังนั้น การพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสามารถแก้ไขปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อนเก ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว เพราะการจัดฟัน มักใช้การจัดฟันแบบติดแน่น หรือสวมใส่เหล็กจัดฟัน เพื่อดึงฟันให้ค่อยๆ เรียงตัวชิดกันอย่างมีระเบียบ นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสหรือจัดฟันแบบถอดได้ก็อาจได้ผลเช่นเดียวกันในบางกรณี

สำหรับการเกิดฟันห่างในเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและดูแลไม่ให้เด็กติดนิสัยดูดนิ้ว พยายามปรับการกลืนให้ลิ้นแตะเพดานปากแทนที่จะไปดันฟัน หมั่นให้เด็กดูแลรักษาความสะอาดปากและฟันเพื่อป้องกันโรคเหงือกโดยใช้แปรงสีฟันหรือไหมขัดฟันเป็นประจำ รวมทั้งเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือนด้วย นอกจากจะเป็นการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันแล้ว ยังช่วยปลูกฝังในเรื่องของความสำคัญของสุขภาพฟันให้เด็กด้วย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีประสบการณ์ด้านการจัดฟันในเด็กมาอย่างยาวนาน ทันตแพทย์ก็มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการสร้างความเข้าใจให้กับเด็ก เพื่อที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้นำไปพูดสร้างทัศนคติให้กับเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากเด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงาม มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

6
รถรับจ้างขนของภูเก็ตราคาถูกย้ายบ้าน รับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อรับจ้าง

มีใครบ้างที่ยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตรงบอกเลยว่า ท่านพลาดแล้ว ดังคำขวัญประจำจังหวัดว่า "ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี "  จังหวัดภูเก็ต ถือว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เป็นเกาะที่มี ชายหาดและน้ำทะเลที่สวยงดงาม มีชาวต่างชาติ ชอบมาเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก รวมไปจนถึงคนไทยเองก็เช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ต้องการใช้ บริการรถรับจ้าง ที่จะขนย้ายสินค้า ต่างๆให้กับท่าน ท่านลองมาดู ผู้ให้บริการ รถขนของรับจ้างในจังหวัดภูเก็ตราคาถูก ผู้ให้บริการรายไหน ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการสำหรับการขนย้ายของ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายบ้าน ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้าย office ร้านอาหาร หรืออื่นๆอีกมากมาย ให้กับท่านได้ เราต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างสำหรับทีมงานให้บริการรับจ้างขนย้ายของ เพราะว่าปัจจุบันนี้มีทั้งผู้ไม่หวังดี มิจฉาชีพ และอื่นๆอีกมากมาย ที่อาจจะทำให้สินค้าของเราเสียหายได้ เราจึงต้องพิถีพิถันในการคัดเลือก ซัพพลายเออร์ที่จะมาดูแลสินค้าที่จะมาช่วยเราขนย้ายของที่เรารัก และสำคัญให้แก่เรา จะต้องดูดังนี้

1. ต้องเป็นรถขนของที่ให้บริการมาอย่างยาวนาน นั่นแสดงถึงว่าผู้ให้ บริการรถรับจ้างขนของ รายนี้มีประสบการณ์ในการทำงาน จะไม่ทำให้สินค้าของเราหรือสินค้าของเราเสียหายน้อยมาก

2. ต้องดูที่สภาพของรถขนของ อย่างที่เคยแจ้ง รถขนของรับจ้างจังหวัดภูเก็ต นั้นมีมากมายหลายบริษัท เมื่อมีรถรับจ้างให้เราเลือกเราก็ควรที่จะเลือกรถที่ใหม่สภาพดี สะอาด

3. การบริการของบริษัทรถขนของ พนักงานฝ่ายต้อนรับ พนักงานขับรถ พนักงานยกสินค้า ให้การเอาใจใส่ในการบริการที่ดี พูดจาสุภาพเรียบร้อย ให้การช่วยเหลือลูกค้าระหว่างการประสานงาน ติดต่อ หรือให้คำแนะนำดีๆในการขนย้ายของในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากถือว่าเป็นงานบริการที่เน้นเรื่องการ service และความพึงพอใจของลูกค้า

4. ให้บริการรถรับจ้างขนของที่หลากหลาย เช่น มีให้บริการ รถกระบะขนของรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างขนย้าย รถสิบล้อรับจ้างขนของ รถเฮี๊ยบรับจ้างขนย้ายทั่วไป รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้างทั่วไป รถเทลเลอร์รับจ้างขนย้ายทั่วไป เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถเลือกรถรับจ้างได้ตามเนื้องานที่เราต้องการที่จะขน เพราะบางครั้งสินค้าเราอาจจะมีปริมาณน้อยหรือปริมาณมากเราก็สามารถที่จะยืดหยุ่นในการขนย้ายในแต่ละครั้งได้

5. ราคาและค่าบริการ แน่นอนว่า คุณภาพงานขนย้ายที่ดี ในเรื่องของราคาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของการตัดสินใจในการขนย้ายสินค้าในแต่ละครั้ง หากราคาที่เสนอมา อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะเรารับได้ เพราะหากถูกไปหรือแพงมากเกินไปเราก็มองว่าอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ ดังนั้นค่าบริการรถขนของรับจ้างควรอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน เหมาะสม

สำหรับลูกค้าท่านใด ที่ยังไม่ได้มีโอกาสเข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างของเรา เราขอแนะนำว่า ลองเปิดโอกาสสักครั้งลองเข้ามาใช้บริการ รถขนของรับจ้างจังหวัดภูเก็ต ของเรา เรามั่นใจว่าด้วยงานบริการที่ผ่านมาประสบการณ์และความชำนาญงานเราสามารถที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะขนย้ายสินค้าไปยังที่ใด ต้องการขนย้ายอะไรจากที่ไหนไปจุดไหน เราก็พร้อมที่จะให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่ท่านโทรมาหาเราตรวจเช็คราคากันก่อนต่อรองกันได้

จุดพื้นที่ให้บริการ รถขนของขนย้ายรับจ้าง ในเขตจังหวัดภูเก็ต เรามีจุดให้บริการจุดย่อย จำนวนมากมายในจังหวัด เพราะเรามีทีมงานรถที่ มีขนาดใหญ่และจำนวนมากเราจึงกระจายจุดให้บริการของเราไปทั่วจังหวัดภูเก็ตไว้หลายจุดและจุดสำคัญสำคัญอย่างมากมายพร้อมที่จะวิ่งให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมงไปทุกที่ในประเทศไทย ไม่ว่าท่านจะต้องการขนย้ายไปที่ไหน มาดูกันว่าจุดให้บริการของเรามีที่ไหนบ้าง

รถขนของรับจ้างทั่วไปแถวอำเภอเมืองภูเก็ต

รถขนของรับจ้างทั่วไปแถวอำเภอ กะทู้

รถขนของรับจ้างทั่วไปแถวอำเภอ ถลาง

7
บริการทำความสะอาด: รวมเคล็ดลับ ทำความสะอาดบ้าน และคอนโด แบบเร่งด่วน

ถ้าคุณต้องการทำความสะอาดบ้านหรือคอนโดแบบเร่งด่วนเพื่อต้อนรับแขก หรือต้องการบ้านที่เรียบร้อยภายในเวลาจำกัด นี่คือเคล็ดลับและวิธีปฏิบัติที่เน้นความเร็วและผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดค่ะ

เคล็ดลับ 30 นาที: ทำความสะอาดบ้าน/คอนโดแบบเร่งด่วน

หลักการสำคัญคือ เน้นพื้นที่ที่แขกเห็น และ กำจัดความรกที่ใหญ่ที่สุด ก่อน

1. ภารกิจเคลียร์ความรก (The Quick Tidy - 5 นาที)
ตระกร้าปาฏิหาริย์ (The Magic Basket): หยิบตระกร้าหรือกล่องว่างหนึ่งใบ เดินไปทั่วบ้าน/คอนโดอย่างรวดเร็ว แล้ว กวาด สิ่งของทุกอย่างที่อยู่ผิดที่ใส่ลงไป (เช่น รีโมท หนังสือ นิตยสาร ของเล่น) แล้วนำตระกร้านั้นไปซ่อนในตู้หรือห้องที่คุณไม่เปิดให้แขกเห็น

จัดหมอนและผ้าห่ม: พับผ้าห่มและจัดหมอนอิงบนโซฟาให้เข้าที่ การจัดสิ่งทอให้เรียบร้อยทำให้ห้องนั่งเล่นดูดีขึ้นทันที


2. จัดการห้องครัวให้เงา (Kitchen Quick Fix - 10 นาที)
ห้องครัวที่เงาทำให้บ้านดูสะอาดกว่าความเป็นจริง

จานชามต้องหายไป: ล้างจานที่เหลือทันที หรือถ้าไม่มีเวลา ให้ซ่อนไว้ในอ่างล้างจานแล้ววางผ้าเช็ดจานปิดทับไว้ หรือเก็บเข้าเครื่องล้างจานให้หมด

เช็ดพื้นผิว: ใช้สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ (All-purpose cleaner) ฉีดแล้วเช็ด เคาน์เตอร์ครัว และ อ่างล้างจาน ให้เงาวับ อย่าลืมเช็ดด้านหน้าตู้เย็นและเตาที่เปื้อนด้วย

ทิ้งขยะ: นำถังขยะครัวไปทิ้งและเปลี่ยนถุงใหม่ทันที


3. รีเซ็ตห้องน้ำ (Bathroom Flash Clean - 5 นาที)
ห้องน้ำเป็นห้องที่สำคัญที่สุดที่ต้องดูสะอาด

เช็ดและฉีด: ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อใน โถส้วม ทิ้งไว้ก่อน แล้วไปเช็ด อ่างล้างหน้า และ เคาน์เตอร์ ด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาด (Wipes) หรือสเปรย์

กระจกต้องใส: เช็ดกระจกเงาให้สะอาดโดยไม่มีรอยด่าง

เก็บของส่วนตัว: เก็บแปรงสีฟัน เครื่องสำอาง หรือของใช้ส่วนตัวเข้าตู้ให้เรียบร้อย และเปลี่ยนผ้าเช็ดมือเป็นผืนใหม่ที่แห้งสะอาด


4. จัดการฝุ่นและพื้น (Dust & Floor Sweep - 5 นาที)
ปัดฝุ่นด้วยความเร็ว: ใช้ผ้าเช็ดฝุ่น (เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์) เช็ดโต๊ะกาแฟและชั้นวางของที่อยู่ในระดับสายตา

กวาด/ดูดฝุ่นบริเวณหลัก: เน้นการดูดฝุ่นหรือกวาดเฉพาะบริเวณที่แขกจะเดินผ่าน เช่น ทางเข้า และกลางห้องนั่งเล่น ไม่จำเป็นต้องดูดฝุ่นทุกซอกมุม


5. เพิ่มความสดชื่น (The Fresh Finish - 5 นาที)
นี่คือขั้นตอนสุดท้ายที่สร้างความประทับใจ

เปิดม่าน/เปิดหน้าต่าง: ดึงม่านและเปิดหน้าต่างเพื่อ ระบายอากาศ และให้ แสงธรรมชาติ เข้ามา ทำให้บ้านรู้สึกปลอดโปร่งทันที

เติมกลิ่นหอม: จุดเทียนหอม ก้านกระจายกลิ่น หรือสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นอ่อน ๆ (ที่ชอบ) แต่ไม่ควรฉีดมากเกินไป จนกลิ่นฉุน

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
หมอออนไลน์: บิดอะมีบา (Amebiasis)

อะมีบา เป็นโปรโตซัว (สัตว์เซลล์เดียว) ชนิดหนึ่ง สามารถเข้าไปทำให้เกิดการติดเชื้อในลำไส้ กลายเป็นลำไส้ใหญ่อักเสบ (colitis) เรียกว่า บิดอะมีบา หรือเข้าไปในตับทำให้เกิดฝีในตับ เรียกว่า ฝีตับอะมีบา

บิดอะมีบา (บิดมีตัว) พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในคนอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป

บิดชนิดนี้พบได้น้อยกว่าบิดชิเกลลา มักพบในท้องถิ่นที่การสุขาภิบาลยังไม่ดี หรือในกลุ่มคนที่ยังขาดสุขนิสัยที่ดี

การติดเชื้อมักเกิดได้บ่อยในสถานพักฟื้นของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยทางจิตเวช และในกลุ่มชายรักร่วมเพศ

ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง แต่เป็นพาหะแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ส่วนน้อยจะกลายเป็นโรคบิดอะมีบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ขาดอาหาร ป่วยเป็นมะเร็ง ใช้ยาสเตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกัน ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดอาจเกิดอาการรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้ออะมีบา (ameba) ที่มีชื่อว่า เอนตามีบาฮิสโตไลติคา (Entamoeba histolytica) ซึ่งอยู่ตามดินและแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งอาจปนเปื้อนอยู่ในสระว่ายน้ำและน้ำประปา ส่วนใหญ่ติดต่อโดยการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อจากผู้ที่เป็นพาหะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จัดเตรียมหรือทำอาหารให้ผู้อื่น) หรือปนเปื้อนดินหรือน้ำที่มีเชื้อ นอกจากนี้ยังติดต่อโดยการดื่มน้ำแบบดิบ ๆ และการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้ปากสัมผัสกับทวารหนักหรือองคชาตที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระในบริเวณทวารหนัก (ซึ่งพบในกลุ่มชายร่วมเพศ)

ระยะฟักตัว 1 สัปดาห์ถึง 3 เดือน (ส่วนใหญ่ 8-10 วัน)
 

อาการ

ในรายที่เป็นเฉียบพลัน อาจแสดงอาการได้ 3 ลักษณะตามความรุนแรงของโรคดังนี้

ในรายที่มีการติดเชื้อเล็กน้อยถึงปานกลาง จะมีอาการปวดบิดในท้อง มีลมในท้องมาก ท้องอืด ถ่ายอุจจาระเหลววันละ 3-5 ครั้ง อาจมีมูกปนเล็กน้อย (โดยไม่มีเลือดปน) หรือไม่ก็ได้ ส่วนใหญ่มักไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำ

ในรายที่มีการติดเชื้อมาก จะมีอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบหรือโรคบิดชัดเจน คือ ปวดท้อง ปวดเบ่งที่ก้นคล้ายถ่ายไม่สุด และถ่ายเป็นมูกเลือดทีละน้อย ซึ่งมีเนื้ออุจจาระปนน้อยมาก มักมีกลิ่นเหม็นเหมือนหัวกุ้งเน่า ผู้ป่วยจะถ่ายกะปริดกะปรอยวันละ 10-20 ครั้ง หรือมากกว่า ระยะนี้ผู้ป่วยเดินเหินไปไหนมาไหนและทำงานได้

อาการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นมูกเลือดดังกล่าว มักจะเป็นอยู่นานหลายวันถึงหลายสัปดาห์ แล้วอาจทุเลาไปได้เองสักระยะหนึ่ง หากไม่ได้รับการรักษาก็จะมีอาการกำเริบซ้ำได้บ่อย ๆ

ในรายที่ติดเชื้อรุนแรง ซึ่งมักพบในเด็กเล็ก จะมีอาการคล้ายบิดชิเกลลา คือ มีไข้สูง ปวดท้องมาก คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียมาก ถ่ายเป็นน้ำปริมาณมากวันละ 10-20 ครั้ง มักมีเลือดปน และมักมีภาวะขาดน้ำซึ่งอาจรุนแรงถึงช็อกได้ 

ในรายที่เป็นเรื้อรัง จะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อ่อนเพลีย ถ่ายอุจจาระเหลว (อาจมีมูกปน) วันละ 3-5 ครั้ง หรือถ่ายเป็นมูกเลือดกะปริดกะปรอย เป็นๆ หายๆ เรื้อรังนานเป็นแรมเดือนแรมปี ผู้ป่วยมักมีอาการน้ำหนักลดร่วมด้วย และในช่วงที่ไม่มีอาการท้องเดินอาจมีอาการท้องผูกสลับด้วย อาการแสดงบางครั้งอาจแยกไม่ออกจากมะเร็งลำไส้ใหญ่


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจกลายเป็นโรคบิดเรื้อรัง มีอาการอ่อนเพลีย ซีด น้ำหนักลด ซูบผอม อาจเกิดก้อนอะมีโบมา (เกิดจากการติดเชื้ออะมีบาเรื้อรังร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการของลำไส้อุดกั้น จากภาวะลำไส้กลืนกันเอง (intussusception)

บางรายอาจเกิดแผลขนาดใหญ่ที่กระพุ้งลำไส้ใหญ่ (cecum) ตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา ทำให้มีไข้สูง ท้องอืดมาก ท้องเดิน กดเจ็บ คล้ายไส้ติ่งอักเสบ (ส่วนไส้ติ่งอักเสบจากเชื้ออะมีบาก็อาจพบได้แต่ค่อนข้างน้อย)

ในรายที่เป็นรุนแรงอาจเกิดภาวะลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเร็วร้าย (fulminant colitis) ซึ่งมักพบในเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะขาดอาหาร หรือใช้ยาสเตียรอยด์ ทำให้มีการหลุดลอกของเยื่อบุลำไส้ใหญ่ปริมาณมาก และตกเลือดรุนแรงเป็นอันตรายถึงตายได้

ภาวะร้ายแรงอื่น ๆ เช่น ลำไส้ใหญ่ทะลุทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบตามมา ภาวะลำไส้ใหญ่พอง (toxic megacolon) ทำให้ผนังลำไส้แตกได้

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะลำไส้ใหญ่ตีบ (ถ่ายอุจจาระลำบาก) หรือแผลที่ผิวหนังตรงบริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก

เชื้ออาจแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่พบบ่อยคือ ตับ ทำให้เป็นฝีตับอะมีบา ส่วนน้อยอาจแพร่ไปที่ปอดและสมอง ทำให้เกิดการอักเสบหรือเป็นฝี


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย โดยมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่เป็นไม่มากอาจตรวจไม่พบอะไรชัดเจน บางรายอาจพบอาการท้องอืด ใช้เครื่องฟังตรวจที่หน้าท้องจะได้ยินเสียงโครกครากของลำไส้มากกว่าปกติ อาจมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณท้องส่วนล่าง หรือคลำได้ตับโตเล็กน้อย

ในรายที่เป็นมากมักมีไข้สูง มีภาวะขาดน้ำ กดเจ็บทั่วบริเวณท้อง อาจพบตับโตและกดเจ็บ ความดันต่ำ

ในรายที่เป็นเรื้อรังอาจคลำได้ก้อนที่บริเวณท้องน้อยข้างขวา เรียกว่า อะมีโบมา (ameboma) ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นมะเร็งได้

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจหาเชื้อในอุจจาระ บางรายอาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การใช้กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (sigmoidocopy‚ colonoscopy) การทดสอบทางน้ำเหลืองด้วยวิธี ELISA เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้การรักษาตามอาการ (เช่น ยาลดไข้ ให้อาหารบำรุงร่างกาย) และให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เมโทรไนดาโซล หรือทินิดาโซล

2. ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง หน้าท้องกดเจ็บมากหรือเกร็งแข็ง ตับโตและกดเจ็บมาก ถ่ายเป็นเลือดรุนแรง ปวดศีรษะรุนแรง หายใจหอบหรือชัก แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

3. ถ้ามีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง คลำได้ก้อนในท้อง หรือน้ำหนักลดฮวบ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ เช่น เอกซเรย์ การตรวจอัลตราซาวนด์ การใช้กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (sigmoidocopy‚ colonoscopy) เป็นต้น และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

ผลการรักษา ส่วนใหญ่หายเป็นปกติใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนน้อยที่เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งหากรักษาได้ทันการณ์ก็จะหายเป็นปกติได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจได้รับอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือดกะปริดกะปรอย มูกมีกลิ่นเหม็นเหมือนหัวกุ้งเน่า ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นบิดอะมีบา ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
 
2. กินยาปฏิชีวนะตามขนาดและครบระยะเวลาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
 
3. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

4. ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    ปวดศีรษะรุนแรง ชัก ปวดท้องรุนแรง หรืออาเจียน 
    หายใจหอบ ตาเหลืองตัวเหลือง หรือน้ำหนักลด 
    ท้องผูกหรือถ่ายอุจจาระลำบาก
    คลำได้ก้อนในท้อง
    ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
    หลังกินยามีผื่นคัน ตุ่มพุพอง ปากบวม ตาบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ
    กินยาที่แพทย์แนะนำ 4-5 วันแล้วไม่ดีขึ้น
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันบิดชิเกลลา และท้องเดินจากเชื้อไกอาร์เดีย

ข้อแนะนำ

1. หลังการให้ยารักษา ถึงแม้ว่าอาการจะทุเลาเป็นปกติแล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้ควรทำการตรวจดูเชื้อในอุจจาระในเดือนที่ 1‚ 3 และ 6 หลังการรักษา ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อหลงเหลือซึ่งอาจทำให้โรคกำเริบใหม่ได้

2. ผู้ที่ติดเชื้ออะมีบาอาจมีอาการท้องเดิน (ถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นมูกไม่มีเลือดปน) เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังได้ หากสงสัยควรส่งตรวจดูเชื้ออะมีบาในอุจจาระ

3. ในผู้ที่ติดเชื้ออะมีบาบางรายอาจไม่มีอาการแสดงแต่อย่างใด แต่สามารถแพร่เชื้อออกทางอุจจาระไปให้ผู้อื่น เรียกว่า พาหะ (carrier) ของโรคบิดอะมีบา หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น กินยาสเตียรอยด์ก็อาจกลายเป็นโรคตามมาได้

10
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


11
ไอเดียการเลือกของขวัญ สำหรับคนชอบแต่งบ้าน

การเลือก ของขวัญสำหรับคนชอบแต่งบ้าน เป็นเรื่องสนุกและท้าทายมากค่ะ เพราะเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจในรสนิยมและความชื่นชอบส่วนตัวของผู้รับได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นของที่นำไปใช้ได้จริงและช่วยเติมเต็มพื้นที่โปรดของพวกเขาได้อีกด้วย ลองมาดูไอเดียและเคล็ดลับในการเลือกกันค่ะ

1. ทำความรู้จักสไตล์การแต่งบ้านของผู้รับ

นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดในการเลือกของขวัญประเภทนี้ค่ะ การทราบสไตล์การแต่งบ้านของเขาจะช่วยให้คุณเลือกของที่เข้ากันได้และไม่กลายเป็นภาระในการจัดเก็บ

มินิมอล/สแกนดิเนเวีย: เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา สีพื้น (ขาว เทา ดำ เบจ) วัสดุธรรมชาติ (ไม้ ผ้าฝ้าย) เน้นฟังก์ชัน

ไอเดียของขวัญ: แจกันเซรามิกเรียบๆ, เทียนหอมกลิ่นสะอาด, ต้นไม้เล็กๆ ในกระถางมินิมอล, โคมไฟตั้งโต๊ะดีไซน์เส้นตรง, ผ้าคลุมโซฟาสีพื้น

โมเดิร์น/ร่วมสมัย: เส้นสายชัดเจน รูปทรงเรขาคณิต วัสดุโลหะ แก้ว สีสันสดใส หรือโทนสีเข้ม

ไอเดียของขวัญ: แจกันแก้ว/โลหะทรงแปลกตา, นาฬิกาติดผนังดีไซน์ล้ำๆ, ประติมากรรมตั้งโต๊ะขนาดเล็ก, กรอบรูปโลหะ

วินเทจ/เรโทร: กลิ่นอายย้อนยุค ของเก่า ของสะสม วัสดุไม้เก่า หนัง ทองเหลือง

ไอเดียของขวัญ: โคมไฟตั้งโต๊ะสไตล์วินเทจ, กรอบรูปไม้แกะสลัก, นาฬิกาตั้งโต๊ะแบบโบราณ, ของตกแต่งเซรามิก/ทองเหลืองที่มีลวดลายคลาสสิก

โบฮีเมียน/รัสติก: เน้นความเป็นธรรมชาติ งานคราฟต์ สีเอิร์ธโทน ผ้าทอมือ

ไอเดียของขวัญ: กระถางต้นไม้ดินเผา/หวายสาน, หมอนอิงผ้าทอ, มาคราเม่แขวนผนัง, แจกันรูปทรงอิสระผิวหยาบ, เทียนหอมจากไขถั่วเหลืองในภาชนะดินเผา

คลาสสิก/หรูหรา: ความสง่างาม วัสดุคุณภาพดี ลวดลายอ่อนช้อย

ไอเดียของขวัญ: แจกันคริสตัล, เชิงเทียนหรูหรา, กล่องเก็บของประดับตกแต่ง, กรอบรูปโลหะสีทอง


2. พิจารณาจากพื้นที่ใช้งานและความต้องการ

ห้องนั่งเล่น: หมอนอิง, ผ้าคลุมโซฟา, โคมไฟตั้งพื้น, แจกันขนาดกลาง-ใหญ่, ถาดวางของ

ห้องนอน: เทียนหอม, ก้านหอมปรับอากาศ, กรอบรูป, กล่องเก็บเครื่องประดับ
สวยๆ, โคมไฟหัวเตียง, ผ้าห่มคลุมไหล่

โต๊ะทำงาน: กล่องใส่ปากกา/ดินสอ, โคมไฟตั้งโต๊ะ, ที่จัดระเบียบสายไฟ, ต้นไม้เล็กๆ

ห้องครัว/มุมทานอาหาร: ชุดแก้วกาแฟ/ชาสวยๆ, ที่รองแก้ว, จานชามดีไซน์เก๋ๆ (อาจให้เป็นเซ็ตเล็กๆ), ผ้ากันเปื้อนดีไซน์น่ารัก

ผู้ที่ชอบดอกไม้/ต้นไม้: แจกัน, กระถางต้นไม้, อุปกรณ์ทำสวนเล็กๆ, ต้นไม้มงคล


3. เลือกประเภทของขวัญยอดนิยมสำหรับคนแต่งบ้าน

ของแต่งบ้านชิ้นเล็ก (Decorative Accents):

แจกัน: เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะใช้ได้หลากหลาย วางได้แทบทุกมุม

เทียนหอม/ก้านหอม/เครื่องหอม: สร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับบ้าน เลือกกลิ่นที่เป็นกลาง ผ่อนคลาย

หมอนอิง/ผ้าคลุม: ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์และความอบอุ่น ให้เลือกสีพื้นหรือลายที่เข้ากับสไตล์การแต่งบ้าน

กรอบรูป: กรอบรูปสวยๆ ที่ผู้รับสามารถนำรูปภาพความทรงจำดีๆ มาใส่ได้

ของตั้งโชว์/ประติมากรรมเล็กๆ: รูปปั้นเล็กๆ ดีไซน์เก๋ๆ หรือของสะสมที่มีเอกลักษณ์

ของใช้ในบ้านที่สวยงาม (Functional Decor):

แก้วน้ำ/แก้วกาแฟดีไซน์พิเศษ: เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ถาดวางของ/กล่องเก็บของ: ช่วยจัดระเบียบให้ดูสวยงาม

โคมไฟตั้งโต๊ะ: เป็นทั้งของตกแต่งและให้แสงสว่าง

นาฬิกาตั้งโต๊ะ/ติดผนัง: เลือกดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์

ของขวัญจากธรรมชาติ:

ต้นไม้มงคล/ต้นไม้ฟอกอากาศ: ช่วยเพิ่มความสดชื่นและชีวิตชีวาให้กับบ้าน (พร้อมกระถางสวยๆ)

ดอกไม้ประดิษฐ์คุณภาพสูง: สำหรับคนที่ไม่สะดวกดูแลต้นไม้จริง


4. งบประมาณและการนำเสนอ

กำหนดงบประมาณ: ของแต่งบ้านมีราคาหลากหลาย ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เลือกของขวัญที่มีคุณภาพดีที่สุดในงบประมาณของคุณ

คุณภาพสำคัญกว่าราคา: ของแต่งบ้านบางชิ้นที่ราคาไม่สูงมาก แต่มีดีไซน์ดีและคุณภาพดี ก็สร้างความประทับใจได้

การห่อของขวัญ: ห่อให้สวยงามและเหมาะสมกับสไตล์ของขวัญ จะช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับการให้

แนบการ์ดอวยพร: เขียนข้อความที่แสดงความยินดีและเน้นว่าคุณใส่ใจในการเลือกของขวัญที่เข้ากับสไตล์ของเขา/เธอ จะทำให้ผู้รับรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น

การเลือกของขวัญสำหรับคนชอบแต่งบ้านเป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจในสิ่งที่เขารักค่ะ หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกของขวัญที่ถูกใจและสร้างความสุขให้กับผู้รับนะคะ!

12
รวมช่องทางติดต่อรักษาสำหรับผู้ป่วย covid 19

สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง Doctor at Home ได้รวบรวมช่องทางติดต่อสำหรับผู้ติดเชื้อ หรือได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด เพื่อติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไว้ที่นี่

เบอร์สายด่วน

1668 สายด่วน กรมการแพทย์

    โทรได้ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.
    สอบถามข้อมูล ให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติตัวเบื้องต้นในการดูแลตนเองและป้องกันการแพร่กระจายของโรค พร้อมช่วยเหลือผู้ติดเชื้อให้ได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด มีทีมแพทย์ประเมินอาการระดับความรุนแรงของผู้ป่วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ประสานงานขอเตียงจากโรงพยาบาล หรือ Hospitel
    นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อผ่านช่องทาง “สบายดีบอต” ของกรมการแพทย์

1669 สายด่วน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตินอกสถานพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ประเมินอาการว่าเข้าข่ายอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือไม่ อาการแบบใด ก่อนส่งทีมผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือ
    ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EMS1669 เพื่อเป็นอีกช่องทางสำหรับเรียกรถพยาบาลกรณีฉุกเฉิน

1330 สายด่วน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    สอบถามข้อมูลสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง)

1506 สายด่วน ประกันสังคม

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    สอบถามสิทธิประโยชน์ประกันสังคมสำหรับการรักษาพยาบาล

1422 สายด่วน กรมควบคุมโรค

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    สอบถามข้อมูล ความรู้ด้านสุขภาพ และข้อสงสัยสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ

1646 สายด่วน ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. (ศูนย์เอราวัณ)

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ซักประวัติผู้ป่วยเบื้องต้น สอบถามอาการ หากอาการรุนแรงจะมีทีมของศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินเข้าไปรับผู้ป่วย

1323 สายด่วน สุขภาพจิต

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ให้คำปรึกษาปัญหาความเครียด สุขภาพจิต แนะนำวิธีการจัดการกับความเครียดจากสถานการณ์โควิดและอาการซึมเศร้า

1111 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ร้องเรียนเกี่ยวกับโควิด-19 ทุกกรณี สอบถามและติดตามสถานการณ์ของโควิด-19 การแพร่กระจายของโรค รวมถึงการขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว

02-872-1669 ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP)

    โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล เมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประสานงานคุ้มครองตามสิทธิผู้ป่วยวิกฤติ

096-771-1687  Taxi COVID-19 จากโรงพยาบาลราชวิถี

    โทรได้ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. (แจ้งขอรับบริการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน)
    บริการแท็กซี่ (Ambulance Taxi) สำหรับรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
    แบบฟอร์มการขอใช้รถแท็กซี่ฉุกเฉิน Ambulance Taxi สำหรับภารกิจรับ-ส่งผู้ป่วย COVID-19
    สอบถามข้อมูลโครงการ “แท็กซี่ฉุกเฉิน Ambulance Taxi” เพิ่มเติม โทร. 096 771 1687

092-252-5454 และ 094-878-664 มูลนิธิกระจกเงา

    ส่งต่อวัคซีนโมเดอร์นาที่ได้รับการบริจาค สำหรับผู้เข้าไม่ถึงวัคซีนและต้องการวัคซีนบริจาค
    โครงการป่วยให้ยืม

รายการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่โครงการป่วยให้ยืมพร้อม "ให้ยืม" มีดังนี้
1. เตียงผู้ป่วย
2. ที่นอนลม
3. เครื่องดูดเสมหะ
4. เครื่องผลิตออกซิเจน
5. เครื่องช่วยหายใจ CPAP - Bipap
6. เสาน้ำเกลือ
7. วีลแชร์
8. วอล์คเกอร์ - ไม้เท้าค้ำยัน
9. ที่นั่งอาบน้ำ - โถปัสสาวะ
10. ที่ทานข้าวผู้ป่วย
รับบริจาคและส่งมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด

หมายเลขโทรศัพท์และสายด่วนทั่วประเทศ สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อเพื่อเข้ารับการดูแลรักษา และสอบถามรายละเอียด

ภาคเหนือ

เชียงราย 053-910-384-5
เชียงใหม่ 053-215-183-5, 053-215-192-3
น่าน  054-600-070 ต่อ 311-313
พะเยา 054-409-132, 095-698-4350
แพร่ 054-511-145 ต่อ 207, 064-579-5738
แม่ฮ่องสอน 062-295-3064
ลำปาง 093-140-8023
ลำพูน 053-093-725-6 ต่อ 111, 062-019-7187
อุตรดิตถ์ 095-309-2692, 095-315-5939

ภาคกลาง

กำแพงเพชร 093-111-8594-5
ชัยนาท 083-069-1823, 093-008-5968
นครนายก 081-862-8967
นครปฐม 065-940-2374
นครสวรรค์ 056-232-001 ต่อ 132-133, 061-625-5165
นนทบุรี 061-394-5402-3
ปทุมธานี 02-581-6454
พระนครศรีอยุธยา 081-780-6767, 098-257-3876
พิจิตร 056-990-354 ต่อ 136
พิษณุโลก 055-241-555-9, 088-275-2261
เพชรบูรณ์ 056-711-010, 091-025-3596
ลพบุรี 063-202-3921, 063-202-3923
สมุทรปราการ 063-192-9272, 063-192-9207
สมุทรสงคราม 034-713-309, 034-711-678
สมุทรสาคร 065-549-3322, 034-871-274
สระบุรี 096-909-9179
สิงห์บุรี 036-813-493, 086-318-8853
สุโขทัย 061-869-8161, 094-865-4499
สุพรรณบุรี 084-071-4257, 081-986-5617
อ่างทอง 064-587-6427, 035-611-172
อุทัยธานี 056-511-565 ต่อ 204

ภาคใต้

กระบี่ 075-612-227
ชุมพร 077-511-040
ตรัง 085-888-9497
นครศรีธรรมราช  062-245-2378, 082-464-9679
นราธิวาส 082-800-0837
ปัตตานี 073-460-234
พังงา 098-131-3422
พัทลุง 074-614-130
ภูเก็ต 062-243-5116, 094-593-8876
ยะลา 093-359-1300, 098-563-3488
ระนอง 062-158-9469
สงขลา 093-576-6411, 074-300-464
สตูล 061-173-3317, 081-543-7634
สุราษฎร์ธานี 082-800-0837

ภาคตะวันออก/ภาคตะวันตก

กาญจนบุรี 034-515-208
จันทบุรี 083-756-9647, 082-232-3850
ระยอง 061-439-8988, 086-842-9444
ตาก 062-310-7233, 062-310-7173
ฉะเชิงเทรา 094-792-2525, 038-511-208
สระแก้ว 098-272-8734, 065-702-1100
ประจวบคีรีขันธ์ 032-611-053, 032-611-437
ชลบุรี 038-119-777
เพชรบุรี 032-400-099
ตราด 086-340-8902, 086-340-8910
ราชบุรี 032-328-101 ถึง 7 ต่อ 40
ปราจีนบุรี 037-211-626 ต่อ 108 /120, 096-886-7370

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กาฬสินธุ์ 043-019-760 ต่อ 107
ขอนแก่น 097-959-6765
ชัยภูมิ 082-854-5815, 098-135-2870
นครพนม 082-849-8155, 061-019-2999
นครราชสีมา 081-265-5604, 065-119-0188
บึงกาฬ 042-492-046 ต่อ 114 , 061-205-3743
บุรีรัมย์ 044-617-241
มหาสารคาม 095-180-7712
มุกดาหาร 042-612-942, 081-205-5908
ยโสธร 045-712-233 ถึง 4
ร้อยเอ็ด 043-511-754 ต่อ 117/119
เลย 042-810-993
ศรีสะเกษ 065-240-0680, 065-240-0691
สกลนคร 042-711-258- ต่อ 1311 , 093-328-5264
สุรินทร์ 044-513-998, 092-599-5180
หนองคาย 042-421-438 ต่อ 136, 088-552-3969
หนองบัวลำภู 063-728-1653
อำนาจเจริญ 086-651-5424
อุดรธานี 042-222-2356
อุบลราชธานี 045-344-664



13
การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันเด็ก 

การดูแลช่องปากระหว่างการจัดฟันเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเครื่องมือจัดฟัน เช่น เหล็กและลวด อาจทำให้เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์สะสมได้ง่ายขึ้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้ หากผู้ปกครองช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดและสอนลูกให้ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จะช่วยให้การจัดฟันประสบความสำเร็จได้ค่ะ


1. การแปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ: สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแปรงฟันหลังรับประทานอาหารและของว่างทุกครั้งอย่างน้อย 2 นาที เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามเครื่องมือ

ใช้แปรงเฉพาะ: ควรใช้แปรงสีฟันสำหรับจัดฟัน (Orthodontic Toothbrush) ที่มีร่องตรงกลาง หรือใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม

เทคนิคการแปรง:

แปรงด้านบนของแบร็กเก็ต (เหนือลวด): วางขนแปรงทำมุม 45 องศา ชี้ลงไปที่เหงือก แล้วขยับเป็นวงกลมสั้น ๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวณเหนือเครื่องมือ

แปรงด้านล่างของแบร็กเก็ต (ใต้ลวด): วางขนแปรงทำมุม 45 องศา ชี้ขึ้นไปที่ฟัน แล้วขยับเป็นวงกลมสั้น ๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวณใต้เครื่องมือ

แปรงด้านบดเคี้ยวและด้านใน: แปรงเหมือนการแปรงฟันปกติ ไม่ละเลยฟันกรามซี่ในสุด

ใช้แปรงซอกฟัน (Interdental Brush): ใช้แปรงซอกฟันขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ลวดและรอบ ๆ แบร็กเก็ตแต่ละตัว เพื่อทำความสะอาดคราบที่แปรงหลักเข้าไม่ถึง


2. การใช้ไหมขัดฟันและเครื่องมือช่วยอื่น ๆ

ไหมขัดฟันทุกวัน: การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน (อย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน) เป็นสิ่งสำคัญมาก

ใช้ไหมขัดฟันร่วมกับ Floss Threader: อุปกรณ์คล้ายเข็มพลาสติกที่ช่วยร้อยไหมขัดฟันให้ลอดใต้ลวดจัดฟันก่อนนำไปทำความสะอาดซอกฟันแต่ละซี่

เครื่องพ่นน้ำ (Water Flosser): เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็ก ๆ ที่รู้สึกว่าการใช้ไหมขัดฟันแบบปกติทำได้ยาก เพราะสามารถใช้แรงดันน้ำในการกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคตามซอกฟันและเครื่องมือได้ง่ายขึ้น

ใช้น้ำยาบ้วนปาก: ควรใช้น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวฟันและลดความเสี่ยงฟันผุ


3. ข้อควรระวังเรื่องอาหาร

หลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียว: อาหารประเภทนี้อาจทำให้แบร็กเก็ตหลุดหรือลวดงอได้ ซึ่งจะทำให้การรักษาล่าช้าและต้องเสียเวลามาซ่อมแซม เช่น น้ำแข็ง, ถั่ว, ป๊อปคอร์น, ลูกอมแข็ง, หมากฝรั่ง, คาราเมล, และทอฟฟี่

ควรหั่นอาหาร: สำหรับอาหารที่ต้องกัด เช่น แอปเปิ้ล แครอท หรือขนมปังแข็ง ควรหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทาน

จำกัดอาหารที่มีน้ำตาล: ขนมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้แบคทีเรียเพิ่มขึ้นและเกิดฟันผุได้ง่ายมากเมื่อมีเครื่องมือจัดฟัน


4. การจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้า

การระคายเคือง: หากลวดหรือแบร็กเก็ตบาดหรือทิ่มกระพุ้งแก้ม สามารถใช้ขี้ผึ้งจัดฟัน (Orthodontic Wax) ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วแปะทับบริเวณที่แหลมคมเพื่อลดการระคายเคือง

เครื่องมือหลุด/หลวม: หากแบร็กเก็ตหลุด ลวดงอ หรือมีส่วนใดของเครื่องมือเสียหาย ควรรีบติดต่อคลินิกทันตกรรมจัดฟันเพื่อทำการแก้ไขทันที


5. การนัดพบทันตแพทย์

พบทันตแพทย์จัดฟันตามนัด: ต้องไปพบทันตแพทย์จัดฟันทุกเดือนเพื่อทำการปรับเครื่องมือและติดตามความคืบหน้า

พบทันตแพทย์ทั่วไปเพื่อตรวจและขูดหินปูน: ควรไปตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนกับทันตแพทย์ทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ทุก 6 เดือน) แม้จะจัดฟันอยู่ก็ตาม เพราะทันตแพทย์จะช่วยตรวจหาฟันผุหรือปัญหาเหงือกอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

การสร้างวินัย เป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการดูแลช่องปากระหว่างจัดฟัน พ่อแม่ควรช่วยดูแลและให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอค่ะ

14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 60