แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 45
1
โปรโมชั่นแท็บเล็ต HONOR Pad X8a แท็บเล็ตรุ่นใหม่ จอใหญ่ 11 นิ้ว บางเบา จัดเต็มทุกความบันเทิง ราคาคุ้มค่า

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ HONOR Pad X8a ที่มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำ เพื่อตอบโจทย์ทั้งการทำงานและความบันเทิงแบบจัดเต็ม รุ่นนี้โดดเด่นด้วยจอแสดงผลถนอมดวงตาขนาดใหญ่ 11 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz พร้อมแบตเตอรี่ทรงพลังความจุ 8300mAh ช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

นอกจากนี้ยังสร้างประสบการณ์เสียงเหนือชั้นด้วยระบบลำโพงแอมพลิจูดขนาดใหญ่ 4 ตัว ผสานเทคโนโลยี HONOR Histen Sound Tuning และการรับรอง Dual Hi-Res เพื่อยกระดับความเพลิดเพลินทางเสียงและมอบคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด อีกทั้งยังมี Kids Edition เสมือนติวเตอร์ส่วนตัว ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กและวัยเรียน เหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัวและวัยเรียนวัยทำงานที่ต้องการใช้แท็บเล็ตเป็นตัวช่วยในหลากหลายด้าน โดย HONOR Pad X8a มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ HONOR Pad X8a LTE และ HONOR Pad X8a WIFI เตรียมพร้อมเปิดราคาในประเทศไทย 30 กันยายนนี้

HONOR Pad X8a แท็บเล็ตรุ่นที่สองจาก HONOR Pad X8 เหมาะสำหรับการใช้งานอย่างครอบคลุม มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู น้ำหนักเบาและตัวเครื่องบาง ทำให้พกพาง่าย ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน โดยรุ่นนี้ อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือชั้น ชูจุดขายด้วยจอแสดงผลพรีเมียมขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานของมนุษย์เป็นหลัก ทั้งในด้านการถนอมสายตาและความคมชัดของภาพ


เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังให้แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่พิเศษ 8300mAh ที่มอบอายุการใช้งานแบตฯ ที่ดีที่สุด รองรับการใช้งานต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตฯ จะหมด พร้อมระบบชาร์จแบบมีสาย 10W ทำให้แท็บเล็ตพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์เสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วยระบบลำโพง แอมพลิจูดขนาดใหญ่ 4 ตัว ผสานเทคโนโลยี HONOR Histen Sound Tuning ที่ยอดเยี่ยมด้วยเสียง 360° ที่มีชีวิตชีวา และการรับรอง Dual Hi-Res ให้เอฟเฟกต์เสียงที่หลากหลาย สมดุลและสมจริง ทำให้ผู้ใช้ดื่มด่ำไปกับเสียงที่น่าหลงใหลทั้งดูหนังและฟังเพลง

HONOR Pad X8a ยังเสริมการใช้งานด้านอื่น ๆ ด้วยประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon® 680 ที่ช่วยให้การประมวลผลราบรื่นและรวดเร็ว พร้อมพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 4GB+128GB ผสานกับเทคโนโลยี HONOR RAM Turbo ที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน ไม่ว่าจะเปิดหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันหรือจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ก็ทำได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ห้ามพลาด! เตรียมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานแท็บเล็ตอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด HONOR Pad X8a เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน 2567 โดย HONOR Pad X8a มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ HONOR Pad X8a LTE (4+128GB) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และ HONOR Pad X8a WIFI (4+128GB) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 Exclusive เฉพาะช่องทาง Shopee และเปิดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกช่องทางปกติ เริ่ม 9 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย!

2
จัดฟันบางนา: เผย 7 เรื่องจริงของฟัน ที่หลายคนไม่เคยทราบ !

เชื่อว่าหลายๆคนคงมีความเชื่อผิดๆมากมายเกี่ยวกับฟัน แต่น้อยคนนักที่จะทราบถึงความแปลกของฟันมนุษย์ ที่บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากมาย แต่หลายๆคนไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว

ฟันมนุษย์เป็นอวัยวะชิ้นเล็กๆ แต่มีความจำเป็นต่อทุกคนอย่างมากมาย เพราะนอกจากจะใช้ในการดำรงชีวิต คือใช้บดเคี้ยวอาหารวันละ 3 รอบ เป็นอย่างน้อย ยังทำให้การใช้ภาษาหรือคำพูดที่ออกมาชัดเจนอีกด้วย

ซึ่งในวันนี้จะขอพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับเรื่องแปลกเกี่ยวกับฟัน ที่เชื่อว่าหลายๆคนไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เผย 7 เรื่องเกี่ยวกับฟัน ที่หลายคนไม่เคยทราบ !

หลายๆคนคงมองว่าฟันมีหน้าที่แค่ใช้บดเคี้ยวอาหารต่างๆ และเพื่อให้ดูแล้วสวยงามเท่านั้น แต่จริงๆฟันยังมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่อย่างไม่คาดคิดดังต่อไปนี้


1.    ทารกบางคนเกิดมาพร้อมฟันน้ำนมได้

จากที่หลายๆคนทราบกันดีว่าฟันของทารกจะเริ่มงอกขึ้นมาหลังจากที่ทารกคลอดออกมาจากครรภ์มารดาเท่านั้น นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด แท้จริงแล้วทารกสามารถมีฟันน้ำนมงอกออกมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาได้

ซึ่งหลายคนพอได้อ่านก็อาจจะบอกว่าน่าเหลือเชื่อเป็นไปไม่ได้หรอก แต่เรื่องนี้คือเรื่องจริง จากบันทึกตามสถาบันเพื่อสุขภาพหลายๆประเทศได้แจ้งเอาไว้ เด็กทารกมีโอกาสคลอดออกมาพร้อมฟันน้ำนมอยู่ที่ประมาณ 1 / 2,000 คน

แต่โดยส่วนใหญ่แพทย์จะทำการถอนฟันที่งอกออกมาพร้อมทารกที่เพิ่งคลอด เพราะฟันที่ยื่นออกมานั้นมีความอ่อนแอ ไม่ได้แข็งแรงแบบฟันน้ำนมทั่วๆไป


2.    โรคฟันผุ เป็นโรคที่พบมากอันดับ 2

ฟันผุ หรือที่หลายๆคนเรียกไปว่า แมงกินฟัน , ฟันเป็นแมง , ฟันเป็นรู หรือฟันเป็นโพรง เป็นโรคที่พบได้บ่อยถึง 80% ของคนทั่วไป และหากว่าไม่รีบที่จะทำการรักษาก็จะทำให้รุกรามกลายเป็นโรคอื่นๆต่อไปเช่น เหงือกอักเสบ ปริทันต์ หรือถ้าหากว่าเชื้อโรคหลุดเข้าสู่หลอดเลือดได้ ก็จะยิ่งส่งปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ หรืออาจจะทำให้เสียชีวิตได้


3.    คนทั่วไปนิยมใช้แปรงสีฟ้า มากกว่าสีแดง

จากผลการสำรวจของบริษัทผู้ผลิตแปรงสีฟันชื่อดัง ได้ทำการสำรวจเรื่องแปลกประหลาดเช่น คนส่วนใหญ่นิยมใช้แปรงสีฟัน สีอะไร ?

โดยจากผลสำรวจที่ออกมาบอกได้ว่า คนส่วนใหญ่ ชอบใช้แปรงสีฟันที่เป็นสีฟ้า มากกว่าสีแดง


4.    น้ำลายช่วยป้องกันฟันผุได้

สำหรับข้อนี้หลายๆคนคงทราบดีว่าน้ำลายนั้นเป็นประโยชน์มากๆกับช่องปาก เพราะน้ำลายจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในปาก โดยน้ำลายจะถูกสร้างเพิ่มมาขึ้นเมื่อรับประทาน เพื่อช่วยให้เราเคี้ยวหรือกลืนอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้น้ำลายยังช่วยลดความเป็นกรดของคาร์โบไฮเดรต และที่สำคัญที่สุดน้ำลายคือตัวช่วยกำจัดเศษคราบอาหารที่เกาะติดอยู่ในปาก เพื่อช่วยลดฟันผุนั่นเอง


5.    ความยาวของไหมขัดฟันหากว่าใช้ทุกวัน

เชื่อว่าหลายๆคนมองว่าการใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารหรือแปรงฟันเป็นเรื่องไกลตัว แต่ต้องขอบอกเลยว่าไหมขัดฟันนั้นเป็นตัวช่วยให้คุณลดการเกิดฟันผุได้เป็นอย่างดี และรู้ไหมว่าถ้าคุณใช้ไหมขัดฟันทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน คุณจะต้องใช้ไหมขัดฟันยาวถึง 16.5 เมตร และในหนึ่งปีจะมีความยาวถึง 111.5 เมตร เลยทีเดียว


6.    พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

หลายๆครอบครัวอาจจะละเลยข้อนี้ ซึ่งในประเทศไทยต้องบอกเลยว่าประชากรส่วนใหญ่ จะเข้าตรวจสุขภาพฟันหรือหาทันตแพทย์ เมื่อสายไปเสียแล้ว ซึ่งการพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน หรือ ปีละ 2 ครั้ง ถือได้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะจะทำให้ฟันของคุณอยู่ในสภาพที่ดีไปตลอด


7.    เคลือบฟันเป็นส่วนประกอบที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายมนุษย์

เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จัก หรือเคยได้ยินคำว่า “เคลือบฟัน” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเคลือบฟันนี้จะอยู่บนผิวฟันของเราทุกคน ทุกซี่ จะคอยปกป้องการถูกกระแทกขูดขีดต่างๆของเศษอาหารที่ทำการบดเคี้ยว หากว่าเคลือบฟันถูกทำลาย ฟันซี่นั้นจะอ่อนแอลงและเสียในที่สุด

3
ผ้ากันไฟ นำไปใช้งานด้านไหนได้บ้าง

ผ้ากันไฟสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายด้าน ทั้งในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และในชีวิตประจำวัน ดังนี้ค่ะ

1. งานอุตสาหกรรม
งานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ:
ใช้ป้องกันสะเก็ดไฟและความร้อนจากงานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ ไม่ให้กระเด็นไปโดนวัสดุไวไฟอื่นๆ
ใช้เป็นม่านกันไฟเพื่อกั้นแบ่งพื้นที่ทำงาน ป้องกันไฟลุกลาม
ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนหุ้มท่อหรืออุปกรณ์ที่มีความร้อนสูง

โรงงานอุตสาหกรรม:
ใช้ป้องกันไฟลุกลามจากเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่างๆ
ใช้ในบริเวณที่มีสารไวไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
ใช้ในงานซ่อมบำรุง เพื่อป้องกันลูกไฟจากงานเชื่อมกระเด็นมาโดน

โรงกลั่นน้ำมัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี:
ใช้เป็นชุดปฏิบัติงานภาคสนาม งานเชื่อมทั่วไป งานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับไฟ/สะเก็ดไฟ

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและสาธารณูปโภค:
ใช้ผลิตเป็นชุดหมี ชุดช่าง ใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการลุกลามของเปลวไฟ

2. งานก่อสร้าง
งานก่อสร้าง:
ใช้ป้องกันสะเก็ดไฟและความร้อนจากงานเชื่อม งานตัด หรือเจียรโลหะ ในงานก่อสร้าง
ใช้เป็นม่านกันไฟเพื่อกั้นแบ่งพื้นที่ทำงาน ป้องกันไฟลุกลาม

3. ชีวิตประจำวัน
ในครัวเรือน:
ใช้ดับไฟขนาดเล็ก เช่น ไฟไหม้กระทะ หรือไฟไหม้เสื้อผ้า
ใช้ป้องกันไฟลุกลามจากเตาแก๊ส หรือเตาอบ
ใช้คลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนสูง เช่น เตารีด หรือเครื่องทำความร้อน

ในรถยนต์:
ใช้ดับไฟขนาดเล็กที่อาจเกิดขึ้นในรถยนต์

งานดับเพลิงและกู้ภัย:
ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันความร้อนและเปลวไฟสำหรับนักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัย
การหนีภัยจากแผ่นดินไหว ใช้ผ้าห่มกันไฟ คลุมศรีษะเพื่อป้องกันวัตถุที่ตกลงมาใส่

4. งานเฉพาะทาง
งานด้านอวกาศ:
ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนในยานอวกาศ และชุดป้องกันไฟสำหรับนักบินอวกาศ
งานทางทหาร:
ใช้ทำชุดป้องกันไฟสำหรับทหาร และอุปกรณ์ป้องกันไฟในยานพาหนะทางทหาร

สรุป
ผ้ากันไฟมีการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และในชีวิตประจำวัน การเลือกใช้ผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน จะช่วยให้คุณปลอดภัยจากอันตรายจากไฟและสะเก็ดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

4
Doctor At Home: โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า (Trigeminal neuralgia/Tic douloureux)

โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า หมายถึง อาการปวดที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 5 หรือเส้นประสาทไทรเจมินัล (trigeminal nerve) ซึ่งเลี้ยงบริเวณใบหน้าและศีรษะ ทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการเคี้ยวอาหาร และรับความรู้สึกที่ตาและใบหน้า

พบได้ประมาณปีละ 4-5 คน ต่อประชากร 100,000 คน พบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี อาจพบได้น้อยในเด็กและวัยหนุ่มสาว พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า

เส้นประสาทสมองเส้นที่ 5 หรือเส้นประสาทไทรเจมินัล (trigeminal nerve) แยกเป็น 3 แขนงย่อย ได้แก่

แขนงบน หรือแขนงตา  ครอบคลุมบริเวณหน้าผาก ตา จมูก

แขนงกลาง หรือแขนงแก้ม ครอบคลุมบริเวณ เปลือกตาล่าง ข้างจมูก แก้ม เหงือก ริมฝีปาก ฟันบน

แขนงล่าง หรือแขนงขากรรไกร ครอบคลุมบริเวณ ขากรรไกร ฟันล่าง เหงือก ริมฝีปากล่าง

โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า อาจเกิดอาการปวดในบริเวณใบหน้าที่มีแขนงเส้นประสาทไปเลี้ยงเพียงแขนงเดียว หรือมากกว่า 1 แขนงได้

สาเหตุ

ส่วนใหญ่ เกิดจากหลอดเลือดที่อยู่ใกล้กับเส้นประสาทไทรเจมินัลที่อยู่ตรงฐานของสมอง เคลื่อนเข้ามาสัมผัสหรือกดทับเส้นประสาทดังกล่าว ทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ

ส่วนน้อยอาจเกิดจากความเสื่อมตามอายุ หรือเปลือกหุ้มเส้นประสาท (myelin sheath) เสื่อมจากโรคบางชนิด (เช่น multiple sclerosis) นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มีก้อนเนื้องอกกดทับเส้นประสาทไทรเจมินัล มีความผิดปกติอื่น ๆ ในสมอง การบาดเจ็บหรือการผ่าตัดบริเวณใบหน้า

อาการ

มีอาการปวดแปลบคล้ายถูกไฟฟ้าช็อตหรือเข็มทิ่ม อย่างเฉียบพลันและรุนแรง นานครั้งละไม่กี่วินาทีถึง 2-3 นาที ในบริเวณใบหน้าที่เส้นประสาทไทรเจมินัลไปเลี้ยง ตำแหน่งที่ปวดบ่อย ได้แก่ แก้ม ขากรรไกร ฟัน เหงือก ริมฝีปาก ส่วนน้อยอาจปวดที่บริเวณตาและหน้าผาก มักเป็นที่ใบหน้าเพียงซีกใดซีกหนึ่ง (โอกาสที่เกิดขึ้นทั้งสองซีกพบได้น้อยมาก)

อาการปวดอาจอยู่ ๆ เกิดขึ้นมาเอง หรืออาจมีสิ่งกระตุ้น เช่น เวลายิ้ม พูด เคี้ยวอาหาร ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวด แต่งหน้า โดนสัมผัส โดนลม โดนแอร์ เคลื่อนไหวศีรษะ เป็นต้น

บางรายอาจมีอาการปวดเล็กน้อย รู้สึกแสบร้อน หรือมีอาการชา เสียวหรือซ่า ก่อนที่จะมีอาการปวดแปลบ

อาการปวดแปลบดังกล่าวอาจเกิดตรงจุดเดียว หรือแผ่กระจายเป็นบริเวณกว้างก็ได้ และมักเกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ (นานครั้งละไม่กี่วินาทีถึง 2-3 นาที) อาจปวดนาน ๆ ครั้ง หรืออาจเป็น ๆ หาย ๆ อยู่เรื่อย ๆ วันละหลายครั้ง (ในรายที่เป็นรุนแรงอาจปวดวันละนับร้อยครั้ง) อาการอาจเป็นนานนับเป็นวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือมากกว่า บางรายก็อาจมีช่วงที่ไม่มีอาการปวดไปนานเป็นแรมเดือนหรือแรมปีก่อนที่จะมีอาการกำเริบรอบใหม่

อาการปวดมักจะเป็นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นตามระยะของโรคที่เป็น

บางรายอาจมีจุดจำเพาะตรงใบหน้าที่เมื่อสัมผัสถูกจะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดได้

ภาวะแทรกซ้อน

โรคนี้ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้ ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความทุกข์ทรมานจากอาการปวดเรื้อรัง และเกิดภาวะซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ อาจทำให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยที่ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมต่อมีผลกระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น การเคี้ยวอาหาร ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักลดในผู้ป่วยบางรายได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการซักประวัติอาการเป็นหลัก ได้แก่ ลักษณะการปวด ตำแหน่งที่ปวด และสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ และทำการตรวจร่างกาย ซึ่งอาจพบบริเวณใบหน้าว่ามีตำแหน่งที่ปวดจากความผิดปกติของเส้นประสาทไทรเจมินัลแขนงใดบ้าง

แพทย์อาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพสมองและศีรษะด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อแยกโรคนี้ออกจากโรคอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกัน (เช่น ไซนัสอักเสบ ความผิดปกติเกี่ยวกับฟันและช่องปาก) และค้นหาสาเหตุ (เช่น เนื้องอกในสมอง multiple sclerosis)

บางรายระหว่างทำ MRI แพทย์อาจทำการฉีดสี (magnetic resonance angiogram) ดูลักษณะหลอดเลือดที่ฐานสมอง

การรักษาโดยแพทย์

ในช่วงแรกแพทย์จะให้กลุ่มยารักษาโรคลมชักเพื่อบรรเทาอาการ ที่นิยมใช้คือ คาร์บามาซีพีน (carbamazepine) ส่วนยาตัวอื่นในกลุ่มนี้ที่แพทย์อาจเลือกใช้ เช่น เฟนิโทอิน (phenytoin), กาบาเพนทิน (gabapentin), กรดวาลโพอิก (valproic acid ), โทพิราเมต (topiramae) เป็นต้น เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจได้ผลน้อยลง แพทย์จะต้องคอยเพิ่มขนาด หรือเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่น

บางรายแพทย์อาจให้ยาบาโคลเฟน (baclofen) ซึ่งเป็นยาคลายกล้ามเนื้อแบบเดี่ยว ๆ หรือร่วมกับยารักษาโรคลมชัก

ในรายที่ใช้ยาไม่ได้ผล แพทย์อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น อาทิ

    การผ่าตัด เพื่อแก้ไขต้นเหตุ คือแยกหลอดเลือดที่กดทับเส้นประสาทออกไป (microvascular decompression) วิธีนี้ช่วยให้หายขาดได้ถึงร้อยละ 80-85
    การฉายรังสีแกมมา (brain stereotactic radiosurgery หรือ gamma knife) เพื่อทำลายเส้นประสาทไทรเจมินัล วิธีนี้ช่วยให้หายปวดได้เป็นส่วนใหญ่ และในรายที่โรคกำเริบ อาจทำซ้ำได้อีก ข้อเสียคือ มีผลข้างเคียง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชาบริเวณใบหน้าตลอดเวลา
    ทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฉีดสารกลีเซอรอล (glycerol injection), การใช้บัลลูนบีบอัด (balloon compression), การแผ่รังสีความร้อนของคลื่นวิทยุ (radiofrequency thermal lesioning) เพื่อทำลายใยประสาทไทรเจมินัล เป็นต้น

ในรายที่ตรวจพบสาเหตุของโรคนี้ ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น ถ้าตรวจพบมีเนื้องอกที่กดทับเส้นประสาทไทรเจมินัล ก็จะทำการผ่าตัดออก เป็นต้น

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดแปลบคล้ายถูกไฟฟ้าช็อตหรือเข็มทิ่มที่บริเวณใบหน้า เช่น แก้ม ขากรรไกร ริมฝีปาก ฟัน เหงือก เป็นต้น หรือมีอาการคล้ายปวดฟัน โดยตรวจไม่พบความผิดปกติของฟันที่ชัดเจน หรือได้รับการตรวจรักษาทางทันตกรรมแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดกำเริบขึ้นใหม่
    ถ้ากินยาให้แล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มึนงง ง่วงนอน คลื่นไส้ มีไข้ขึ้น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

โรคนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล

สำหรับผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวในการดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "Tic douloureux" เนื่องจากผู้ป่วยบางราย เวลามีอาการรู้สึกเจ็บปวด เสียวสะดุ้ง อาจทำหน้าย่น หน้าเบะ หน้าบูดเบี้ยว หรือส่ายศีรษะเป็นพัก ๆ ตามจังหวะที่เกิดอาการปวด ทำให้ดูคล้ายมีอาการหน้ากระตุก (คำว่า tic แปลว่า กล้ามเนื้อกระตุก)

2. ผู้ที่เป็นโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า อาจมีอาการเหมือนปวดเสียวฟัน เนื่องจากถูกกระตุ้นด้วยการแปรงฟัน การเคี้ยวอาหาร หรือการดื่มน้ำร้อนจัดหรือเย็นจัด จึงอาจไปหาทันตแพทย์ ซึ่งอาจตรวจไม่พบความผิดปกติ หรือหากบังเอิญพบมีความปกติเล็กน้อย (เช่น ฟันผุ) ก็อาจได้รับการทำฟันแล้วอาการปวดไม่ดีขึ้น กรณีเช่นนี้แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ทางระบบประสาท

3. แม้ว่าโรคนี้มักมีอาการปวดที่รุนแรงและเรื้อรัง แต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงแต่อย่างใด และสามารถรักษาให้หายได้เป็นส่วนใหญ่

5
วัดป่ารังษีพัฒนาราม เหมาะใส่ชุดขาวปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานแนวสติปัฏฐานสี่

วัดป่ารังษีพัฒนารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 โดยพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสมาธิ เป็นวัดที่ได้รับการอนุญาตจากกรมการศาสนาในปี พ.ศ. 2521 วัดป่ารังษีพัฒนารามเป็นวัดที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเหมาะใส่ชุดขาว ชุดขาวชาย ชุดขาวหญิง ชุดขาวปฏิบัติธรรม มาเที่ยววัดป่ารังษีพัฒนารามส่งเสริมประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบชุมชน

วัดป่ารังษีพัฒนารามตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบของจังหวัดกำแพงเพชร เป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาธรรมะอย่างลึกซึ้งและเจริญสติ วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการทำสมาธิและพัฒนาจิตวิญญาณ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้มาเยี่ยมชมสามารถร่วมปฏิบัติธรรมที่ส่งเสริมความสงบภายในและการรู้แจ้ง

สภาพแวดล้อมภายในวัดรังษีพัฒนารามรายล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำสมาธิและการไตร่ตรอง สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติช่วยให้รู้สึกสงบ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถดื่มด่ำกับการเดินทางทางจิตวิญญาณได้อย่างเต็มที่ เสียงนกร้องและเสียงใบไม้ไหวสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มประสบการณ์โดยรวมในการมีสติอยู่กับปัจจุบัน

การปฏิบัติสมาธิ
ที่วัดมีการสอนเทคนิคการทำสมาธิต่างๆ ให้กับทั้งผู้ฝึกหัดและผู้ฝึกหัดขั้นสูง มีการจัดเซสชั่นการทำสมาธิแบบมีผู้แนะนำเป็นประจำ โดยพระภิกษุผู้มีประสบการณ์จะสอนเกี่ยวกับการฝึกสติและสมาธิ เซสชั่นเหล่านี้มักประกอบด้วยการเดินจงกรม นั่งสมาธิ และสวดมนต์ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สำรวจวิธีการต่างๆ ในการเชื่อมต่อกับตัวตนภายในของตนเอง

สนทนาธรรมะ
นอกจากการทำสมาธิแล้ว ผู้เยี่ยมชมยังมีโอกาสเข้าร่วมฟังธรรมะที่พระภิกษุสงฆ์ประจำวัดเป็นผู้บรรยาย ธรรมะเหล่านี้ครอบคลุมถึงคำสอนของพุทธศาสนาในแง่มุมต่างๆ และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนำธรรมะไปใช้ในชีวิตประจำวัน หัวข้อต่างๆ อาจรวมถึงอริยสัจสี่ มรรคมีองค์แปด และความสำคัญของความเมตตากรุณา การมีส่วนร่วมกับคำสอนเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกเป็นชุมชนในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม

การใช้ชีวิตชุมชน
วัดรังษีพัฒนารามส่งเสริมประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบชุมชน โดยผู้เยี่ยมชมสามารถมีส่วนร่วมในกิจวัตรประจำวันที่ส่งเสริมสติและความเรียบง่าย การมีส่วนร่วมในหน้าที่การงาน เช่น การเตรียมอาหารหรือทำความสะอาดบริเวณวัด จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรับผิดชอบและผูกพันกับสิ่งแวดล้อม แง่มุมของชุมชนนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความอดทน ความเอื้อเฟื้อ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติธรรม

โอกาสพักผ่อน
สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับการทำสมาธิอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทางวัดมีโปรแกรมปฏิบัติธรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมสามารถปฏิบัติธรรมได้นานขึ้น ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถนั่งสมาธิอย่างเข้มข้น ปฏิบัติตามตารางการฝึกสติ และรับคำแนะนำแบบตัวต่อตัวจากพระภิกษุ การปฏิบัติธรรมเหล่านี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้หลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันและมุ่งความสนใจไปที่การเติบโตทางจิตวิญญาณอย่างเต็มที่

วัดป่ารังษีพัฒนารามเป็นอัญมณีแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเชิญชวนให้ผู้คนมาสำรวจพลังแห่งธรรมะอันทรงพลัง ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ โปรแกรมการทำสมาธิที่ครอบคลุม และชุมชนที่คอยสนับสนุน วัดแห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนจิตวิญญาณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่มากประสบการณ์หรือเพิ่งมานับถือศาสนาพุทธ วัดแห่งนี้ก็มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรเพื่อหล่อเลี้ยงการเดินทางของคุณสู่การมีสติและความสงบภายใน

6
motor show: BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid เปิดราคาที่ 939,900 บาท ยังเป็นราคาคาดการณ์!!

BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid รุ่น Dynamic ราคา "คาดการณ์"  939,900 บาท มาพร้อมเทคโนโลยี DM-i อันล้ำสมัย ผสานจุดแข็งของรถยนต์ไฟฟ้า (BEVs) และ รถยนต์ไฮบริด (HEV) เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงพร้อม เครื่องยนต์เบนซินที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์ Plug-In Hybrid โดยเฉพาะ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดไฟฟ้าและโหมดไฮบริดได้อย่างชาญฉลาด โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนจากมอเตอร์เป็นหลัก สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นุ่มนวล และยังมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางทั้งสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางเพื่อการพักผ่อนระยะทางไกล

 ด้วยเครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานเสริมให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และเพื่อประสิทธิภาพการส่งกำลังสูงสุดเครื่องยนต์จะทำงานเพื่อการขับเคลื่อนโดยตรงเมื่อต้องการกำลังขับเคลื่อนสูงสุด เช่น การเร่งแซง หรือเมื่อแบตเตอรี่มีระดับพลังงานต่ำ เป็นต้น เทคโนโลยี DM-i เอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD ไม่เพียงมอบการขับขี่ที่มีสมรรถนะสูงเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม และลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของ BYD “Cool the Earth By One Degree”

 BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid เป็นรถ C-SUV ปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกโดดเด่นสะกดทุกสายตา รูปทรงกระจังหน้าแบบไร้ขอบ โค้งมนคล้ายหยดน้ำ ดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ OCEAN X โฉบเฉี่ยวด้วยโคมไฟแบบตัว C เสริมความปราดเปรียวด้วยเส้นสายด้านข้างที่ลากยาวต่อเนื่องถึงด้านหลัง ตกแต่งด้วยแถบอลูมิเนียม เพิ่มความพรีเมียมสะดุดตาเมื่อวิ่งบนท้องถนน

  ยนตรกรรมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid รุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ "Xiao Yun" เบนซิน 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 96.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร ผสานผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) พร้อมแบตเตอรี่ขับเคลื่อนขนาด 18.3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง กำลังสูงสุด 194.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้ง 2 ระบบะกำลังสูงสุด 214.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 (กําลังสูงสุด 6.6 kW) รองรับหัวชาร์จแบบ DC CCS 2 (กําลังสูงสุด 18 kW) ระบบ VtoL (Vehicle to Load) ความจุถังนํ้ามัน 45 ลิตร โหมดการขับขี่ ECO/Normal/Sport

 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ MacPherson Strut เสริมความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนนอย่างสมบูรณ์แบบ ผสานการทำงานกับระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Multi-link ยกระดับความนุ่มนวลและความสบายระหว่างการเดินทาง เก็บเสียงรบกวนจากภายนอกให้ห้องโดยสารเงียบสงบตลอดเส้นทาง

 นอกจากนี้ BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอย่างครบครันและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร อาทิ
ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและถุงลมนิรภัยด้านข้าง – ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้าและด้านหลังรวม 6 จุด
ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC)
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัจฉริยะ (HBB)
ระบบช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว
เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดีย ปรับหมุนด้วยไฟฟ้า ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™
ลำโพง 9 ตำแหน่ง
BYD Digital Key
พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด
ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่ง
ซึ่งยังไม่มีระบบความปลอดภัยรุ่นใหม่ ๆ หรือ ADAS มาให้ อาจต้องรออับติดตั้งในรุ่นถัดไป

BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid รุ่น Dynamic มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 2 สี Quantum Black และ Horizon White พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD ทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook BYD RÊVER Thailand

7
โรคเบาหวาน เรื่องไม่ “เบา” ที่เราควรใส่ใจ

8 เรื่องน่ารู้ สำหรับคนที่เป็น “เบาหวาน”

1. การเป็นโรคเบาหวาน ไม่ได้หมายถึง “การล้มเหลวในชีวิต”

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน เกิดจากหลากหลายปัจจัย ได้แก่ กรรมพันธุ์ ปัจจัยทางด้านการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง การขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกินเกณฑ์ เป็นต้น และผ่านทาง 2 กลไกหลัก คือ การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินที่ลดลงจากตับอ่อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ตามปกติ จึงมีน้ำตาลมากในกระแสเลือด และอีกกลไกคือ มีภาวะดื้ออินซูลิน โรคเบาหวานเป็นถึงแม้จะเป็นโรคเรื้อรัง แต่เราสามารถควบคุมดูแลระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้ดี เพื่อชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดได้ และสามารถมีชีวิตยืนยาวเทียบเท่ากับคนที่ทั่วไปไม่เป็นเบาหวาน

2. การดูแลรักษาเบาหวานให้ดีตั้งแต่ระยะเริ่มแรก มีความสำคัญมากในระยะยาว

เราอาจจะคิดว่าโรคเบาหวาน ไม่รักษาก็ไม่เป็นไร รอไปก่อนได้ แต่จริงๆแล้วโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี ส่งผลเสียต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดเสื่อมในระยะยาวได้ ไม่ว่าจะเป็น ไตวาย จอประสาทตาเสื่อมทำให้ตาบอด ชาปลายมือปลายเท้า สูญเสียความรู้สึก มีแผลติดเชื้อหายยาก เส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต ถ้าเราเริ่มรักษาเบาหวานให้ดีตั้งแต่แรก จะช่วยชะลอการเสื่อมของหลอดเลือดในอวัยวะต่างๆ และลดอัตราตายจากโรคเบาหวานได้ แต่ถ้าเรารักษาช้า ปล่อยให้น้ำตาลสูงเป็นระยะเวลานานหลายๆปี แล้วมารักษาทีหลัง หลอดเลือดที่ตีบตันไปแล้วก็ไม่สามารถกลับมาได้ดีเหมือนเดิม

3. ระลึกไว้เสมอว่า โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่ระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้เรื่อยๆ

เริ่มแรกที่เราทราบว่าตนเองเป็นเบาหวาน นั่นหมายความว่าเบต้าเซลล์ในตับอ่อนของเราหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ทำให้สร้างอินซูลินได้ลดลง และยิ่งถ้ามีภาวะดื้ออินซูลินด้วย จะยิ่งทำให้ตัวโรครุนแรงขึ้น ช่วงแรกๆที่เป็นโรค ระดับน้ำตาลอาจจะยังไม่สูงมากนัก หลายๆคนสามารถควบคุมเบาหวานให้อยู่ในระดับที่ดีได้ด้วยการควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และออกกำลังกายเท่านั้น โดยที่ไม่ต้องใช้ยาเลย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เบต้าเซลล์ในตับอ่อนจะค่อยๆลดลงไปตามอายุของเราที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด เรามักต้องทานยาลดระดับน้ำตาลมากขึ้น เพื่อควบคุมให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในปัจจุบัน ยาลดระดับน้ำตาลมีการพัฒนาไปมาก มียาเบาหวานหลากหลายรูปแบบ ที่ออกฤทธิ์แตกต่างกัน โดยเฉพาะยารุ่นใหม่ๆ มีผลข้างเคียงน้อย เช่น ไม่ทำให้น้ำตาลต่ำ ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม บางตัวสามารถชะลอการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และชะลอการเกิดโรคไตวายได้ด้วย ทำให้ผลในการรักษาในปัจจุบันค่อนข้างดีมาก เพราะฉะนั้นการที่เราระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้น ต้องทานยาเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้แปลว่าเรา “ล้มเหลว” ในการรักษา แต่เป็นธรรมชาติของการดำเนินโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นกับทุกคน

4. อาหารเป็นปัจจัยสำคัญ ในการควบคุมระดับน้ำตาล

ปริมาณแป้งที่บริโภค เป็นตัวแปรหลักในการควบคุมเบาหวาน ดังนั้น การใส่ใจถึงปริมาณ สัดส่วน และคุณภาพของอาหารเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง

    พยายามรับประทานอาหารประเภทแป้งที่ มี Glycemic index ต่ำ เช่น การเลือกทาน ข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ระดับน้ำตาลจะขึ้นน้อยกว่า ข้าวขาว ขนมปังขาว ในปริมาณที่เท่ากัน เป็นต้น
    หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง
    ใช้กฎว่า “ครึ่งจาน” ต้องเป็นผักใบเขียว
    ระมัดระวังอาหารแปรรูป เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ขนมขบเคี้ยว

5. การออกกำลังกาย เป็นยาขนานเอก ทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

มีวิจัยรองรับชัดเจนว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที ทำให้ได้อย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์ สามารถลดระดับน้ำตาล ลดภาวะดื้ออินซูลิน ลดไขมันในกระแสเลือดได้ และที่สำคัญดีต่อสุขภาพหัวใจ หากเรามีข้อจำกัดใดๆที่ทำให้ออกกำลังกายไม่ไหว เช่น อายุมาก ปวดข้อ อย่างน้อยการมีกิจกรรมระหว่างวัน เช่นการทำงานบ้าน การทำสวน การเดินขึ้นลงบันได้แทนการใช้ลิฟต์ ก็ส่งผลดีมากต่อการควบคุมเบาหวาน

6. พยายามเจาะดูระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อทราบรูปแบบน้ำตาลในแต่ละวันของตนเอง

อยากให้คิดว่าเครื่องเจาะระดับน้ำตาลเป็นเข็มทิศเปลี่ยนชีวิต ยิ่งเราเจาะหลากหลายเวลา เช่น ก่อนรับประทานอาหาร หลังรับประทานอาหาร สุ่มเวลาเช้าบ้าง เที่ยงบ้าง เย็นบ้าง จะทำให้เราเรียนรู้รูปแบบระดับน้ำตาลของตัวเราเอง ทำให้เราเกิดการเรียนรู้ว่าอาหารประเภทไหนที่ทานแล้วน้ำตาลขึ้นสูง อาหารประเภทไหนทานแล้วน้ำตาลไม่ขึ้น ออกกำลังกายแบบไหน นานเท่าไหร่ แล้วน้ำตาลลงดี เราจะรู้สึกสนุกไปกับการเรียนรู้นี้ และทำให้การควบคุมเบาหวานเราดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญแพทย์สามารถนำข้อมูลน้ำตาลที่ได้นี้ไปปรับยา เพื่อให้ระดับน้ำตาลในแต่ละช่วงเวลาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตลอดทั้งวันได้ด้วย

7. การฉีดอินซูลิน ไม่ได้แปลว่าชีวิตเรา “หมดหวัง” แล้ว

เนื่องจากธรรมชาติของโรคเบาหวาน มีการดำเนินโรคที่แย่ลงตามลำดับ จากการที่ร่างกายผลิตอินซูลินได้ลดลงเรื่อยๆอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นเบาหวานเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี ในที่สุดเมื่อถึงจุดหนึ่งในชีวิต เราอาจต้องฉีดอินซูลินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าตัวโรคเข้าสู่จุดที่หมดทางรักษา การฉีดอินซูลินสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีมาก ดีกว่ายารับประทานด้วยซ้ำ อีกทั้งยังปลอดภัยต่อตับและไต ยาฉีดลดระดับน้ำตาลในปัจจุบันออกแบบมาในรูปแบบปากกา ฉีดง่าย ไม่ยุ่งยาก

8. เรียนรู้ให้ทันสมัย อยู่กับความเป็นจริง ไม่หลงอยู่กับความเชื่อ

เมื่อเราเป็นเบาหวานแล้ว จงเรียนรู้ให้ความรู้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การรักษา ยาในปัจจุบันมีการพัฒนาก้าวไปไกลมาก มียารุ่นใหม่ผลิตออกมาแทบทุกๆปี ปรึกษาแพทย์ประจำตัวเกี่ยวกับการรักษา อยู่กับความเป็นจริง ไม่หลงเชื่อกับข้อมูลผิดๆ

8
แก้ไขฟันห่าง ด้วยการจัดฟันเด็ก

ปัญหาฟันห่างหรือมีช่องว่างระหว่างฟันนั้น เกิดขึ้นได้กับฟันทุกบริเวณ แต่จุดที่สังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนและสร้างความไม่มั่นใจให้ใครหลายคน คือ บริเวณฟันหน้า ซึ่งสาเหตุของฟันห่างมีทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการรักษาทางการแพทย์มากมายที่ช่วยปิดช่องฟันห่างหรือลดช่องว่างระหว่างฟันได้อย่างเห็นผล เช่นเดียวกับเด็กที่มีฟันผุที่รุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียฟัน บางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดฟันห่างได้ ยิ่งถ้าบริเวณนั้น มีภาวะฟันแท้หายด้วยแล้ว ก็จะทำให้เด็กรู้สึกไม่มั่นใจได้ ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้แก้ไขปัญหาฟันห่าง ต้องบอกก่อนว่า สาเหตุของการเกิดฟันห่างนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความผิดปกติของเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะใต้ลิ้นกับพื้นด้านล่างของช่องปาก หรือเนื้อเยื่อใต้ริมฝีปากบนกับเหงือก เนื้อเยื่อเหล่านี้มีลักษณะเป็นเส้นและมีบทบาทในการพัฒนาโครงสร้างช่องปากตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนทารกในครรภ์มารดา

บางคนมีเนื้อเยื่อนี้ยึดติดมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้มีฟันหน้าห่างออกจากกันได้ รวมไปถึงขนาดฟันเล็กกว่าขากรรไกร หากมีฟันขนาดเล็กกว่าขากรรไกรหรือมีขากรรไกรที่ใหญ่เกินไป อาจส่งผลให้ฟันเรียงตัวห่างจากกันเพื่อเติมเต็มพื้นที่ขากรรไกร ซึ่งขนาดของฟันและขากรรไกรมีปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด หากพ่อแม่ฟันห่างก็มีโอกาสที่บุตรหลานจะมีฟันห่างไปด้วย ดังนั้นวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันห่างในเด็กได้ สำหรับอาการฟันห่างนั้น เกิดขึ้นได้ทุกวัย ยิ่งถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของฟันผุ การสูญเสียฟัน ก็อาจจะทำให้เกิดฟันห่างฟันล้มได้ ดังนั้น การรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันจึงมีความสำคัญมาก

สำหรับอาการฟันห่างในเด็กนั้น เกิดจากการที่เด็กติดนิสัยดูดนิ้ว อาจมีฟันหน้าห่างเนื่องจากแรงดันจากการดูดนิ้ว อย่างไรก็ตาม เด็กหลายคนอาจมีฟันหน้าห่างและมีเนื้อเยื่อยึดระหว่างลิ้นกับพื้นช่องปากมากเกินไปในระยะที่ฟันเริ่มงอกขึ้นมา แต่ช่องว่างดังกล่าวจะหายไปเพราะเนื้อเยื่อนี้จะค่อย ๆ สั้นลงเมื่อเวลาผ่านไป ส่วนฟันหน้าที่ห่างในวัยผู้ใหญ่นั้น ก็อาจหายไปโดยธรรมชาติได้เช่นกันหากมีฟันกรามขึ้นมาดันให้ฟันเข้ามาติดชิดกันในภายหลัง แต่ถ้าหากไม่หาย พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนก็เกิดความกังวลใจกลัวลูกจะเสียบุคลิกภาพและอาจจะโดนล้อได้ ดังนั้น การพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสามารถแก้ไขปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อนเก ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว

เพราะการจัดฟัน มักใช้การจัดฟันแบบติดแน่น หรือสวมใส่เหล็กจัดฟัน เพื่อดึงฟันให้ค่อยๆ เรียงตัวชิดกันอย่างมีระเบียบ นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสหรือจัดฟันแบบถอดได้ก็อาจได้ผลเช่นเดียวกันในบางกรณี สำหรับการเกิดฟันห่างในเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและดูแลไม่ให้เด็กติดนิสัยดูดนิ้ว พยายามปรับการกลืนให้ลิ้นแตะเพดานปากแทนที่จะไปดันฟัน หมั่นให้เด็กดูแลรักษาความสะอาดปากและฟันเพื่อป้องกันโรคเหงือกโดยใช้แปรงสีฟันหรือไหมขัดฟันเป็นประจำ รวมทั้งเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือนด้วย นอกจากจะเป็นการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันแล้ว ยังช่วยปลูกฝังในเรื่องของความสำคัญของสุขภาพฟันให้เด็กด้วย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีประสบการณ์ด้านการจัดฟันในเด็กมาอย่างยาวนาน ทันตแพทย์ก็มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการสร้างความเข้าใจให้กับเด็ก เพื่อที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้นำไปพูดสร้างทัศนคติให้กับเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากเด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงาม มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

9
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ



10
วิธีสร้างอาชีพเสริม จากอาหารไทยยอดนิยม คู่มือสู่ธุรกิจที่ทำกำไร

การสร้างอาชีพเสริมจากอาหารไทยยอดนิยมเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้เพิ่มเติม เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชอบทั้งในและต่างประเทศ ต่อไปนี้เป็นคู่มือสู่ธุรกิจอาหารไทยที่ทำกำไรได้:

1. เลือกเมนูที่ใช่:

เมนูยอดนิยม:
ศึกษาเมนูอาหารไทยยอดนิยมในพื้นที่ของคุณ เช่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ข้าวผัด หรือส้มตำ
เลือกเมนูที่คุณถนัดและมีความเชี่ยวชาญ

เมนูสร้างสรรค์:
คิดค้นเมนูอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง
ผสมผสานรสชาติและวัตถุดิบที่แตกต่าง เพื่อสร้างความน่าสนใจ
เช่น ผัดไทยเส้นจันทร์มันกุ้งแม่น้ำ หรือต้มยำทะเลรวมมิตร

2. วัตถุดิบคุณภาพ รสชาติโดนใจ:

วัตถุดิบสดใหม่:
เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีและสดใหม่
จะช่วยให้รสชาติอาหารอร่อยและถูกปากลูกค้า

สูตรลับเฉพาะ:
ปรับปรุงสูตรอาหารให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
สร้างความแตกต่างจากร้านอาหารไทยอื่นๆ

ความสะอาด:
รักษาความสะอาดของวัตถุดิบ อุปกรณ์ และสถานที่ทำอาหาร
สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า


3. ทำเลทอง:

แหล่งชุมชน:
เลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ตลาดนัด ถนนคนเดิน หรือหน้าโรงเรียน
จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย

งานอีเว้นท์:
เข้าร่วมงานอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
เช่น งานเทศกาลอาหาร หรือคอนเสิร์ต

เดลิเวอรี่:
ขายอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย
และเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น


4. การตลาดออนไลน์:

โซเชียลมีเดีย:
สร้างเพจหรือบัญชีบนโซเชียลมีเดีย เพื่อโปรโมทร้านค้า
ใช้รูปภาพและวิดีโอที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดลูกค้า

รีวิวและคะแนน:
ให้ความสำคัญกับรีวิวและคะแนนจากลูกค้า
ตอบคำถามและแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว


5. บริการประทับใจ:

ยิ้มแย้มแจ่มใส:
สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและเป็นมิตร
จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้ออีก

ใส่ใจลูกค้า:
รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากลูกค้า
ปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า


เคล็ดลับเพิ่มเติม:

สร้างเรื่องราว: เล่าเรื่องราวของร้านค้าของคุณ เพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า
สร้างความแตกต่าง: สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่ไม่เหมือนใคร
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำ


ตัวอย่างเมนูอาหารไทยที่น่าสนใจ:

ผัดไทย
ต้มยำกุ้ง
ข้าวผัด
ส้มตำ
แกงเขียวหวาน
ข้าวมันไก่
ไก่ย่าง
หมูปิ้ง
ลูกชิ้นทอด
ขนมจีนน้ำยา

การเริ่มต้นธุรกิจอาหารไทยอาจต้องใช้ความอดทนและการปรับตัว แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและใส่ใจในคุณภาพ คุณก็สามารถสร้างรายได้เสริมที่มั่นคงได้

11
บิ๊กไบค์ ยามาฮ่า Yamaha R3 (Standard) ปี 2025
208,200 บาท 

ยามาฮ่า Yamaha R3 (Standard) ปี 2025
Yamaha R3 สปอร์ตแท้สายพันธุ์ R-Series มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ปีกแอโรไดนามิก เพิ่มการทรงตัว ด้วยเครื่องยนต์ 321 ซีซี ที่ตอบสนองได้ทันใจทุกการขับขี่ ควบคุมง่าย คล่องตัวยิ่งขึ้น ดีไซน์ดุดัน เร้าใจ และอัดแน่นไปด้วย DNA ของ R-Series มี Y-Connect

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                Yamaha
   รุ่น                     ยามาฮ่า Yamaha R3 (Standard) ปี 2025
   ประเภทรถ            Sport Bike
   ปีที่เปิดตัว             2025
   ราคา                  208,200 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์              เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์                แบบสปอร์ต 6 ระดับ
   รายละเอียดเครื่องยนต์  4 จังหวะ 2 สูบ DOHC 8 วาล์ว
   ระบบระบายความร้อน     น้ำ
   ระบบสตาร์ท               สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)   321 CC
   แบบเครื่องยนต์            4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด             T.C.I.
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง    แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน             หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)    14 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน           ล้อหน้า เทเลสโคปิก แบบหัวกลับ, ล้อหลัง สวิงอาร์ม
   ระบบเบรค                   ล้อหน้า ดิสก์เบรก (ดิสก์เบรก พร้อมระบบ ABS ช่วยลดการเกิดอาการล้อล็อก เมื่อเบรกกะทันหัน ABS (Anti-Lock Brake System)), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (ดิสก์เบรก พร้อมระบบ ABS ช่วยลดการเกิดอาการล้อล็อก เมื่อเบรกกะทันหัน ABS (Anti-Lock Brake System))
   แบบวงล้อ                      แม็ก
   ขนาดยาง                      ล้อหน้า 110/70 R-17 M/C 54H, ล้อหลัง 140/70 R-17 M/C 66H
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)  2,090 x 730 x 1,140 มม. ความสูงเบาะ 780 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                    169.00 กก.

12
ปล่อยรถผู้บริหาร BMW 750e xDrive M-Sport 2024 โปรโมชั่นพิเศษ

บีเอ็มดับเบิลยู BMW Series 7 750e xDrive M Sport ปี 2023
750e xDrive M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ / 313 แรงม้า / 5,000 - 6,500 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร / 1,750 - 4,700 รอบต่อนาที กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ จะส่งกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ / 489 แรงม้า และให้แรงบิดรวมสูงสุด 700 นิวตันเมตร พร้อมความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงที่ 22.1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยมีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.05 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร และให้ระยะทางการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสูงสุดที่ 85 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC สร้างความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.8 วินาที

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 26 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
ผ่อน 90,xxx / 72 งวด
ส่งฟรีถึงบ้านโดยรถสไลด์,รับประกันเครื่องเกียร์  1 ปี,รับประกันไมล์แท้
ซื้อสดไม่มีบวก vat 7%,ล้างขัดสีเช็ดระบบไฟก่อนส่งมอบ

ราคาพิเศษ 4,928,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               BMW
   รุ่น                    บีเอ็มดับเบิลยู BMW Series 7 750e xDrive M Sport ปี 2023
   ประเภทรถ           รถเก๋ง 4 ประตู, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว            2023


13
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
เรา
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


14
Doctor At Home: มะเร็งเยื่อบุมดลูก (Endometrial cancer)

มะเร็งเยื่อบุมดลูก เป็นมะเร็งที่พบได้น้อยกว่ามะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ มักตรวจพบโรคในระยะแรก ๆ และได้รับการดูแลรักษาได้ผลดี เนื่องจากผู้ป่วยมักมีอาการเลือดออกทางช่องคลอดตั้งแต่เป็นมะเร็งระยะแรก

พบมากในช่วงอายุ 40-60 ปี


สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับความไม่สมดุลของฮอร์โมนทำให้มีระดับเอสโทรเจนสูง

พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดนี้ ได้แก่

    การมีกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติ
    การมีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
    ภาวะไม่มีบุตร หรือมีบุตรเมื่ออายุมาก
    ภาวะอ้วน หรือเป็นเบาหวาน
    การบริโภคไขมันสัตว์มาก
    การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ (เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ชนิดหลายถุง)
    การได้รับฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดประจำเดือนด้วยเอสโทรเจนล้วน ๆ (ไม่มีโพรเจสเทอโรนผสม) เป็นเวลานาน
    เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณเชิงกราน
    การใช้ยาต้านเอสโทรเจน (เช่น tamoxifen ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษามะเร็งเต้านม)
    อายุมาก (มักพบโรคนี้ในหญิงหลังวัยหมดประจำเดือน)
    การมีประวัติโรคมะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว

อาการ

มักมีอาการมีเลือดประจำเดือนออกมากหรือนานผิดปกติ มีของเหลวสีชมพูหรือสีขาวออกทางช่องคลอด หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน ปวดท้องน้อย

บางรายอาจมีอาการเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะหรือร่วมเพศ น้ำหนักลด ซีดจากการเสียเลือด อาจคลำได้ก้อนที่บริเวณท้องน้อย


ภาวะแทรกซ้อน

อาจเกิดภาวะซีดเนื่องจากการมีเลือดออกเรื้อรังทางช่องคลอด

หากปล่อยปละละเลยมะเร็งอาจลุกลามไปที่กระเพาะปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด ท่อรังไข่ รังไข่ และแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปที่อวัยวะอื่น ๆ (เช่น ปอด ตับ กระดูก) ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนของอวัยวะต่าง ๆ ที่มะเร็งแพร่กระจายไป เช่น ขับถ่ายลำบาก ถ่ายเป็นเลือด เจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะหรือร่วมเพศ ปวดท้อง ท้องมาน เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ปวดกระดูก ปวดหลัง น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการตรวจเซลล์มะเร็งที่เก็บจากช่องคลอดจากการขูดมดลูก หรือใช้กล้องส่องตรวจโพรงมดลูก (hysteroscopy) แล้วตัดเยื่อบุมดลูกนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์,เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน- PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกพร้อมทั้งรังไข่และท่อนำรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง

ในรายที่มดลูกโตขนาดเท่าครรภ์ 8 สัปดาห์ อาจทำการฉายรังสีหรือใส่แร่เรเดียมก่อนผ่าตัด

ในรายที่มะเร็งแพร่กระจายออกจากช่องเชิงกราน อาจต้องให้เคมีบำบัด และ/หรือฮอร์โมนบำบัด (เช่น โพรเจสเทอโรนสังเคราะห์)

ผลการรักษา มักจะได้ผลดี เนื่องจากผู้ป่วยมักมีอาการเลือดออกตั้งแต่เป็นมะเร็งระยะแรก จึงทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้เร็วและได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปี ร้อยละ 75-90


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการมีเลือดประจำเดือนออกมากหรือนานผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน ปวดท้องน้อย มีอาการเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะหรือร่วมเพศ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก  กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดมะเร็งเยื่อบุมดลูกที่ได้ผล อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดนี้ด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    ถ้าจำเป็นต้องให้ฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดประจำเดือน ควรให้ฮอร์โมนผสมเอสโทรเจนกับโพรเจสเทอโรน ไม่ควรให้เอสโทรเจนเพียงอย่างเดียว เพราะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุมดลูก
    การกินยาเม็ดคุมกำเนิดช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ในช่วงหลังวัยหมดประจำเดือน แต่เนื่องจากยานี้มีผลข้างเคียงหลายอย่าง หากต้องการกินยานี้เพื่อป้องกันมะเร็งเยื่อบุมดลูก ควรปรึกษาแพทย์
    ออกกำลังกายเป็นประจำ
    ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    ลดการบริโภคไขมันสัตว์


ข้อแนะนำ

1. ผู้หญิงที่มีเลือดประจำเดือนออกมากหรือนานผิดปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด พึงอย่าชะล่าใจว่าไม่เป็นไร

2. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

15
คอนโดติดรถไฟฟ้า เวีย 61 (Via 61)
เริ่มต้น 10.9 ลบ. - 50 ลบ. 

เวีย 61 (Via 61)
คอนโดทำเลใจกลางสุขุมวิท สะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมือง ส่วนตัวเพียง 61 ยูนิต ใกล้ทองหล่อ เอกมัย ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย 370 ม.

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              เวีย 61 (Via 61)
 เจ้าของโครงการ         แสนสิริ
 แบรนด์ย่อย               เวีย
 ราคา                       เริ่มต้น 10.9 ลบ. - 50 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล                คอนโดในเมือง, คอนโดย่านธุรกิจกลางเมือง, คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด            Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี            1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, Penthouse
 ขนาดห้องที่มี              ตั้งแต่ 50.00 ถึง 188.75 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด             1 ไร่
 จำนวนตึก                 1 อาคาร
 จำนวนชั้น                  8 ชั้น
 จำนวนห้อง               61 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด         ประมาณ 108%
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค             สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, อื่นๆ (Lobby, Waiting Lounge, Sky Lounge, Privat Dining, Meeting Room, Rooftop Terrace, Automatic Parking, EV Charging Station)

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน         วัฒนา
 ที่ตั้ง          สุขุมวิท 61 แควงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:             ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานีหมอชิต - แบริ่ง(ทองหล่อ), ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานีหมอชิต - แบริ่ง(เอกมัย)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท
เกทเวย์ เอกมัย
มาร์เช่ ทองหล่อ
เอกมัยช้อปปิ้งมอลล์
เอท ทองหล่อ
ซีนเสปซ ทองหล่อฃ
รร.นานาชาติทรีนิตี้
รร.นานาชาติเอกมัย
รร.แอ๊ดเวนตีสเอกมัย
รร.นานาชาติบางกอกเพรพ
เฮลท์แลนด์ เอกมัย
รพ.สมิติเวช สุขุมวิท
รพ.คามิลเลียน
รพ.กรุงเทพ

 ปีที่สร้างเสร็จ       2026

หน้า: [1] 2 3 ... 45