ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแลสุขภาพ: “โลหิตจาง” ควรกิน-ไม่ควรกินอะไร เพื่อบำรุงเลือดให้ได้ผล  (อ่าน 176 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 426
  • บริการโพสต์ หรือท่านที่ต้องการลงประกาศขายสินค้าผ่านอินเตอร์เนต เหมาะกับท่านที่ไม่มีเวลาลงโฆษณา *บริการโพสต์ ช่วยให้สินค้าท่าน หรือ โฆษณาโปรโมชั่นของท่าน
    • ดูรายละเอียด
เลือดจางกินอะไร จึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพและสามารถช่วยป้องกันโรคเลือดจางได้ อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะเลือดจาง การกินอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโฟเลต (Folate) เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล ถั่วและเมล็ดพืช อาจช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดให้แข็งแรง และยังช่วยป้องกันภาวะเลือดจางเนื่องจากขาดโฟเลตได้อีกด้วย


เลือดจางควรกินอะไร

ผู้ที่มีภาวะเลือดจางควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเลือด โดยอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก อาจมีดังนี้

-    เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ อุดมไปด้วยโปรตีนและเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด
-    เครื่องใน เช่น หัวใจ ไต ลิ้นวัว ตับ อุดมไปด้วยเหล็ก และโฟเลตที่ช่วยป้องกันภาวะเลือดจาง
-    อาหารทะเลสดและอาหารทะเลกระป๋อง เช่น หอยนางรม หอยเชลล์ หอยแครง ปู กุ้ง ปลาทูน่า ปลาทู แซลมอน ปลาซาร์ดีน อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก
-    ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ ผักกูด ถั่วฝักยาว ผักแว่น เห็ดฟาง พริกหวาน ใบแมงลัก ใบกะเพรา ผักปวยเล้ง อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโฟเลต ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด และป้องกันภาวะเลือดจางเนื่องจากการขาดโฟเลต
-    ถั่วและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน ถั่วพิสตาชิโอ อัลมอนด์ ถั่วชิกพี ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อุดมไปด้วยเหล็กที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด


อาหารที่ผู้ที่มีภาวะเลือดจางควรหลีกเลี่ยง

สำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดจางควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารต่อไปนี้ เนื่องจากอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กและธาตุอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น


    ชา กาแฟ นมและผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด
    อาหารที่มีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) เช่น ถั่วลิสง ผักชีฝรั่ง ช็อกโกแลต
    อาหารที่มีแทนนิน (Tannins) เช่น องุ่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง
    อาหารที่มีไฟเตต (Phytates) หรือกรดไฟติก (Phytic Acid) เช่น ข้าวกล้อง ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี


เคล็ดลับการเพิ่มธาตุเหล็กในอาหาร

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกินอาหารที่มีธาตุเหล็กได้อย่างเพียงพอ อาจเลือกกินอาหารเสริมที่ช่วยเสริมธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ การกินอาหารเสริมธาตุเหล็กให้ได้ประโยชน์สูงสุดอาจทำได้ ดังนี้

1.    กินอาหารเสริมธาตุเหล็กในขณะท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับบางคน การกินอาหารเสริมธาตุเหล็กในขณะท้องว่างอาจทำให้ปวดท้อง จึงควรกินพร้อมกับอาหารเพื่อป้องกันอาการปวดท้อง

2.    กินอาหารเสริมธาตุเหล็กพร้อมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น โดยควรกินอาหารเสริมธาตุเหล็กคู่กับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะนาวคั้น

3.    หลีกเลี่ยงการกินอาหารเสริมธาตุเหล็กคู่กับยาลดกรด ยาลดกรดที่ช่วยบรรเทาอาการเสียดท้องอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กได้ ดังนั้น ควรกินอาหารเสริมธาตุเหล็กหลังจากกินยาลดกรดประมาณ 2-4 ชั่วโมง

สำหรับผลข้างเคียงของอาหารเสริมธาตุเหล็ก คือ อาจทำให้อุจจาระเป็นสีดำหรืออาจทำให้บางคนมีอาการท้องผูก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย ดังนั้น คุณหมออาจแนะนำให้กินอาหารที่มีเส้นใยสูงเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก




ดูแลสุขภาพ: “โลหิตจาง” ควรกิน-ไม่ควรกินอะไร เพื่อบำรุงเลือดให้ได้ผล อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/