แอร์ ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมี แต่รู้ไหมว่า ก็มักจะมีปัญหาเยอะอยู่พอสมควร หนึ่งในปัญหาเหล่านั้น คือ แอร์มีกลิ่นอับ แอร์เหม็นอับ จะพาไปดู วิธีแก้ปัญหาแอร์เหม็นอับ พร้อมเจาะลึกถึงสาเหตุ และวิธีป้องกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลย
แอร์เหม็นอับ สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง?
แอร์มีกลิ่นอับ สามารถเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ต่อไปนี้
1. ความสกปรก การอุดตัน
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ แอร์เหม็นอับ มักมาจากคราบสกปรก และการอุดตัน ทั้งจากฝุ่นละออง และน้ำขังต่าง ๆ และยิ่งไปกว่านั้น คราบสกปรก และสิ่งอุดตันพวกนี้ ยังทำให้แอร์ไม่เย็น ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก ส่งเสียงดัง และเสียได้ไวขึ้นด้วย
2. เชื้อรา
อีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ ซึ่งพบเห็นได้บ่อย ๆ คือ มีเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อรา สะสมอยู่ภายในแอร์ โดยเฉพาะบริเวณถาดรองน้ำทิ้ง ดังนั้น อย่าลืมทำความสะอาดแอร์ที่บ้านบ่อย ๆ
3. สัตว์
ตามซอกเล็ก ๆ ต้องระวังไว้ให้ดี เพราะอาจมีสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น มด แมลงสาบ หรือหนู เข้าไปทำรัง หรือซ่อนตัวอยู่ในนั้น ซึ่งอาจจะอึ หรือฉี่ หรือตายอยู่ในนั้น หากทิ้งไว้นาน โดยที่เราไม้รู้ ก็จะส่งกลิ่นเหม็นออกมา พร้อมลมจากช่องแอร์ได้
4. น้ำแอร์รั่ว
เครื่องแอร์ที่มีน้ำรั่วไหล ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ออกมาจากแอร์ได้เหมือนกัน โดยจะเป็นกลิ่นเหม็นในแบบ เหม็นไหม้ หรือกลิ่นไอเสียนั่นเอง
วิธีแก้ปัญหาแอร์เหม็นอับ เบื้องต้นง่าย ๆ ทำได้อย่างไร?
ถ้าเกิด แอร์มีกลิ่นอับ ขึ้นมา เบื้องต้น ต้องหาสาเหตุของกลิ่นให้แน่ชัด ว่าเป็นกลิ่นเหม็นแบบไหน หากเป็นกลิ่นเหม็น ที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อรา แต่เกิดจากปัจจัยอื่น เช่น แอร์สกปรก มีฝุ่นจับหนา มีซากสัตว์ตายอยู่ข้างใน หรือเกิดกลิ่นย้อนจากน้ำที่ระบายออกไปด้านนอก กลับเข้ามาในแอร์ ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ กรณีแบบนี้ สามารถใช้วิธีล้างแอร์ได้ตามปกติ ซึ่งสามารถทำเองได้ในไม่กี่ขั้นตอน ตามนี้
ปิดสวิตซ์ และเบรกเกอร์แอร์ก่อน เพื่อความปลอดภัย
เปิดฝาครอบแอร์ ถอดแผงกรองฝุ่น ที่อยู่ด้านหน้าเครื่อง ไปล้างทำความสะอาด ด้วยการฉีดน้ำแรง ๆ ใส่ด้านที่ไม่มีฝุ่น ถ้าสกปรกมาก ๆ จะใช้แปรงขนนุ่ม ๆ มาช่วยขัดถูก็ได้ เสร็จแล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท
ถอดถาดน้ำทิ้ง ออกมาล้างทำความสะอาด ด้วยน้ำร้อน หรือน้ำสบู่ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำส้มสายชู หรือน้ำยาฟอกขาว เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค และกำจัดกลิ่นเหม็น จากนั้น ล้างน้ำสะอาด แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง
ตรวจสอบตรงแฟนคอล์ยยูนิต ถ้ามีซากสัตว์ตาย หรือคราบฝุ่น คราบสิ่งสกปรกอุดตันให้กำจัดออกให้หมด แล้วค่อยล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ส่วนของท่อน้ำทิ้ง ให้ฉีดน้ำร้อน น้ำส้มสายชู หรือน้ำยาฟอกขาวเข้าไป เพื่อช่วยฆ่าเชื้อ และกำจัดกลิ่นเหม็น แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
ประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่แห้งสนิทแล้ว กลับเข้าที่ตามเดิม เปิดเบรกเกอร์ และสวิตซ์แอร์ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เหม็นอับกันแล้ว
สำหรับวิธีการป้องกัน ไม่ให้แอร์มีกลิ่นเหม็นเน่า หรือเหม็นอับนั้น อาจจะไม่ได้มีแน่ชัด แต่ถ้าหากเราหมั่นดูแล และล้างแอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ ก็ถือเป็นการป้องกันไม่ให้แอร์ส่งกลิ่นเหม็นได้ โดยบริเวณแผงขดท่อคอยล์เย็น ควรล้างทำความสะอาดเป็นประจำทุกปี ส่วนแผงกรอกฝุ่น ก็ควรจะทำความสะอาดทุกเดือน เพราะเจ้าแผงกรองฝุ่น หรือฟิลเตอร์นี้ เป็นชิ้นส่วนที่มีฝุ่นเกาะอยู่มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแอร์ที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ ยิ่งควรถอดล้างให้ได้ทุกวัน หรืออย่างน้อย ๆ ทุกสัปดาห์ ส่วนระยะเวลาในการล้างทำความสะอาดชุดคอยล์ร้อน ควรล้างในทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี
รู้ไหม? แอร์มีกลิ่นอับ แค่ปรับรีโมทก็ช่วยได้นะ!
โหมด Auto
โหมดง่าย ๆ สำหรับใครที่ไม่รู้จะใช้โหมดไหน จะเหมาะกับห้องของเรา ซึ่งโหมดนี้ แอร์จะตั้งอุณหภูมิ และความเร็วลมโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องที่เซ็นเซอร์ตรวจได้ในขณะนั้น
โหมด Cool
โหมดเบสิกที่บ้านไหนก็ใช้ เพราะแอร์จะเข้าสู่รูปแบบการทำความเย็น และคงระดับอุณหภูมิ จากที่เราได้กดเลือกอุณหภูมิ หรือระดับความแรงของพัดลมตามความต้องการของเรา
โหมด Dry
โหมดที่เหมาะสำหรับการลดความชื้น เป็นรูปหยดน้ำ เมื่อเรากดใช้โหมดนี้ จะไม่สามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้ และแอร์ก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องลดความชื้นในอากาศให้เรา
โหมด Fan
โหมดนี้สามารถปรับความเร็วพัดลม แต่ไม่สามารถตั้งอุณหภูมิได้ ลมที่ออกจากชุดคอยล์เย็น จะอยู่ในระดับอุณหภูมิห้อง จะมีลมออกมา แต่ไม่ใช่ลมเย็นจากการทำความเย็นในชุดคอยล์เย็น
เมื่อเปิดโหมดนี้ ยูนิต จะถูกตัดการทำงานออกไปทันที รวมถึงคอมเพรสเซอร์ จะไม่ทำงาน นอกจากนี้ จะไม่มีน้ำยาแอร์ไหลวนเข้ามายังชุดคอยล์เย็น ซึ่งความพิเศษของโหมดนี้ ช่วยแก้ปัญหากลิ่นเหม็นอับ ที่ออกมาจากแอร์ได้ด้วย
วิธีแก้กลิ่น แอร์เหม็นอับ
เริ่มจากกดปุ่มเปิด (ON) เลือกโหมด โดยการกดปุ่ม Mode ตามด้วยโหมดพัดลม (Fan Mode) ซึ่งการเปิดโหมดพัดลม เป็นการให้ความเย็นที่มาจากพัดลม แถมยังทำให้ไม่เปลืองไฟด้วย
จากนั้นให้เร่งระดับความแรงของพัดลมอยู่ในระดับ 3 เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง เพื่อไล่ความชื้นที่อยู่ภายในแอร์ออกไป นอกจากนี้ ควรเปิดหน้าต่าง หรือประตู เพื่อให้ระบายออกอากาศ และกลิ่นออกไปได้อย่างเต็มที่
เมื่อครบเวลา 3-4 ชั่วโมงแล้ว ให้กลับมาเปิดโหมด Cool เหมือนเดิม และดมกลิ่นว่า แอร์ยังมีกลิ่นอับหลงเหลืออยู่รึเปล่า ถ้าพบว่ายังคงมีกลิ่นอับหลงเหลืออยู่ ให้กลับไปทำวิธีด้านบนซ้ำอีก 1 รอบ จนกว่ากลิ่นนั้นจะหายไป
แต่ถ้าหากทำครบ 2 รอบแล้ว กลิ่นเหม็นอับยังคงมีอยู่ ให้เรียกช่างแอร์มาเช็คดูทันที เพราะอาจมีสิ่งมีชีวิตติดอยู่ในเครื่อง จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้
เป็นอย่างไรกันบ้าง แอร์มีกลิ่นอับ รู้สาเหตุวิธีแก้แล้ว ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมา ก็ไม่ต้องกังวลใจแล้ว เพราะแอร์เหม็นอับนั้น แก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแต่ควรจะรีบหาสาเหตุ และรีบแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามจนกลายเป็นปัญหาสุขภาพ และทำลายบรรยากาศการพักผ่อน สำหรับใครที่คิดว่าการล้างแอร์เป็นเรื่องยุ่งยากเพราะไม่ชำนาญ อาจจะปรึกษาผู้เชียวชาญ หรืออ่านบทความจากเรา ล้างแอร์ ด้วยตัวเองอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องง้อช่าง ทำได้อย่างไร? รับรองว่าทำเองได้ ไม่ยากอย่างที่คิดเลย
ซ่อมบำรุงอาคาร: แอร์มีกลิ่นอับ เกิดจากสาเหตุอะไร? มีวิธีแก้ไข แอร์เหม็นอับ ได้อย่างไรบ้าง? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/