ผู้เขียน หัวข้อ: ออล นิว ไทรทัน: Mitsubishi Triton 2019 ไมเนอร์เชนจ์ปล่อยคลิปทีเซอร์ก่อน  (อ่าน 13 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 508
  • บริการโพสต์ หรือท่านที่ต้องการลงประกาศขายสินค้าผ่านอินเตอร์เนต เหมาะกับท่านที่ไม่มีเวลาลงโฆษณา *บริการโพสต์ ช่วยให้สินค้าท่าน หรือ โฆษณาโปรโมชั่นของท่าน
    • ดูรายละเอียด
ออล นิว ไทรทัน: Mitsubishi Triton 2019 ไมเนอร์เชนจ์ปล่อยคลิปทีเซอร์ก่อน

Mitsubishi Triton 2019 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ถูกทยอยปล่อยทีเซอร์อย่างเป็นทางการก่อนวันเปิดตัวที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ล่าสุด มีคลิปความยาว 15 วินาที มาให้ได้ชมกันอีกครั้ง

คลิปทีเซอร์ดังกล่าวเผยให้เห็นดีไซน์ชัดเจนของ Mitsubishi Triton 2019 โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ซึ่งมีการออกแบบตามแนวคิด Dynamic Shield เอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ ติดตั้งชุดไฟหน้าแบบ 2 ชั้นคล้ายกับ Xpander พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED รูปทรงตัว L และไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ขณะที่ชุดไฟเลี้ยว (และคาดว่าจะเป็นไฟตัดหมอก) ถูกติดตั้งไว้บริเวณกันชน พร้อมทั้งเพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าด้วย

     นอกจากนั้น มิตซูบิชิ ไทรทัน 2019 ใหม่ ยังมีการปรับดีไซน์ไฟท้ายต่างไปจากเดิม รวมถึงดีไซน์กระจกมองข้างที่ออกแบบให้ดูเพรียวลมมากขึ้น และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ 6 ก้านคู่หมดจดด้วย

Mitsubishi L200 Challenger 2019 รุ่นพิเศษใหม่วางจำหนายในอังกฤษ

Mitsubishi L200 Challenger 2019 รุ่นพิเศษใหม่เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอังกฤษ ตกแต่งภายนอกดุดันพร้อมออปชั่นภายในเทียบชั้นรถเก๋ง

แม้ว่า Mitsubishi Triton ในบ้านเราจะมีการปรับไมเนอร์เชนจ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในตลาดยุโรปยังคงใช้โฉมเดิมอยู่ โดยล่าสุด มิตซูบิชิในสหราชอาณาจักรได้ทำการเปิดตัว Mitsubishi L200 Challenger รุ่นพิเศษใหม่ที่ถูกตกแต่งเน้นความดุดันเป็นพิเศษ พร้อมห้องโดยสารภายในหรูหราใกล้เคียงกับรถเก๋งและมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

     Mitsubishi L200 Challenger ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น L200 Warrior ติดตั้งกระจังหน้าและกันชนหน้าตกแต่งด้วยสีดำ, กรอบไฟตัดหมอกสีดำ, ซุ้มล้อสีดำ, บันไดข้างสีดำ, กันชนท้ายสีดำ, ฝาครอบกระจกมองข้างและที่เปิดประตูภายนอกสีดำ และล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ ปรับไฟฟ้าฝั่งผู้ขับ และระบบระบบอุ่นเบาะคู่หน้า มาพร้อมระบบอินโฟเทนเม้นท์หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Smartphone Link Display Audio (SDA) รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และกล้องมองหลัง, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ท, ไฟหน้า Bi-Xenon, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ

     ด้านขุมพลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super-Select 4WD

ทั้งนี้ Mitsubishi L200 Challenger จะวางจำหน่ายควบคู่กับโฉมไมเนอร์เชนจ์ (L200 Series 6)