ผู้เขียน หัวข้อ: การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันเด็ก   (อ่าน 5 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 889
  • บริการโพสต์ หรือท่านที่ต้องการลงประกาศขายสินค้าผ่านอินเตอร์เนต เหมาะกับท่านที่ไม่มีเวลาลงโฆษณา *บริการโพสต์ ช่วยให้สินค้าท่าน หรือ โฆษณาโปรโมชั่นของท่าน
    • ดูรายละเอียด
การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันเด็ก 
« เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2025, 15:56:23 น. »
การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันเด็ก 

การดูแลช่องปากระหว่างการจัดฟันเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเครื่องมือจัดฟัน เช่น เหล็กและลวด อาจทำให้เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์สะสมได้ง่ายขึ้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้ หากผู้ปกครองช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดและสอนลูกให้ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จะช่วยให้การจัดฟันประสบความสำเร็จได้ค่ะ


1. การแปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ: สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแปรงฟันหลังรับประทานอาหารและของว่างทุกครั้งอย่างน้อย 2 นาที เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามเครื่องมือ

ใช้แปรงเฉพาะ: ควรใช้แปรงสีฟันสำหรับจัดฟัน (Orthodontic Toothbrush) ที่มีร่องตรงกลาง หรือใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม

เทคนิคการแปรง:

แปรงด้านบนของแบร็กเก็ต (เหนือลวด): วางขนแปรงทำมุม 45 องศา ชี้ลงไปที่เหงือก แล้วขยับเป็นวงกลมสั้น ๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวณเหนือเครื่องมือ

แปรงด้านล่างของแบร็กเก็ต (ใต้ลวด): วางขนแปรงทำมุม 45 องศา ชี้ขึ้นไปที่ฟัน แล้วขยับเป็นวงกลมสั้น ๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวณใต้เครื่องมือ

แปรงด้านบดเคี้ยวและด้านใน: แปรงเหมือนการแปรงฟันปกติ ไม่ละเลยฟันกรามซี่ในสุด

ใช้แปรงซอกฟัน (Interdental Brush): ใช้แปรงซอกฟันขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ลวดและรอบ ๆ แบร็กเก็ตแต่ละตัว เพื่อทำความสะอาดคราบที่แปรงหลักเข้าไม่ถึง


2. การใช้ไหมขัดฟันและเครื่องมือช่วยอื่น ๆ

ไหมขัดฟันทุกวัน: การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน (อย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน) เป็นสิ่งสำคัญมาก

ใช้ไหมขัดฟันร่วมกับ Floss Threader: อุปกรณ์คล้ายเข็มพลาสติกที่ช่วยร้อยไหมขัดฟันให้ลอดใต้ลวดจัดฟันก่อนนำไปทำความสะอาดซอกฟันแต่ละซี่

เครื่องพ่นน้ำ (Water Flosser): เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็ก ๆ ที่รู้สึกว่าการใช้ไหมขัดฟันแบบปกติทำได้ยาก เพราะสามารถใช้แรงดันน้ำในการกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคตามซอกฟันและเครื่องมือได้ง่ายขึ้น

ใช้น้ำยาบ้วนปาก: ควรใช้น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวฟันและลดความเสี่ยงฟันผุ


3. ข้อควรระวังเรื่องอาหาร

หลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียว: อาหารประเภทนี้อาจทำให้แบร็กเก็ตหลุดหรือลวดงอได้ ซึ่งจะทำให้การรักษาล่าช้าและต้องเสียเวลามาซ่อมแซม เช่น น้ำแข็ง, ถั่ว, ป๊อปคอร์น, ลูกอมแข็ง, หมากฝรั่ง, คาราเมล, และทอฟฟี่

ควรหั่นอาหาร: สำหรับอาหารที่ต้องกัด เช่น แอปเปิ้ล แครอท หรือขนมปังแข็ง ควรหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทาน

จำกัดอาหารที่มีน้ำตาล: ขนมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้แบคทีเรียเพิ่มขึ้นและเกิดฟันผุได้ง่ายมากเมื่อมีเครื่องมือจัดฟัน


4. การจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้า

การระคายเคือง: หากลวดหรือแบร็กเก็ตบาดหรือทิ่มกระพุ้งแก้ม สามารถใช้ขี้ผึ้งจัดฟัน (Orthodontic Wax) ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วแปะทับบริเวณที่แหลมคมเพื่อลดการระคายเคือง

เครื่องมือหลุด/หลวม: หากแบร็กเก็ตหลุด ลวดงอ หรือมีส่วนใดของเครื่องมือเสียหาย ควรรีบติดต่อคลินิกทันตกรรมจัดฟันเพื่อทำการแก้ไขทันที


5. การนัดพบทันตแพทย์

พบทันตแพทย์จัดฟันตามนัด: ต้องไปพบทันตแพทย์จัดฟันทุกเดือนเพื่อทำการปรับเครื่องมือและติดตามความคืบหน้า

พบทันตแพทย์ทั่วไปเพื่อตรวจและขูดหินปูน: ควรไปตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนกับทันตแพทย์ทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ทุก 6 เดือน) แม้จะจัดฟันอยู่ก็ตาม เพราะทันตแพทย์จะช่วยตรวจหาฟันผุหรือปัญหาเหงือกอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

การสร้างวินัย เป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการดูแลช่องปากระหว่างจัดฟัน พ่อแม่ควรช่วยดูแลและให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอค่ะ